เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 น.ส.เอ(นามสมมติ) อายุ 34 ปี ได้นำเอกสารหลักฐานการจองฉีดวัคซีน ซิโนฟาร์ม และหลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี นายวีระศักดิ์ และ บัญชีธนาคาร ไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี นายสิทธิโชค บัญชีธนาคาร กสิกรไทย ชื่อบัญชี นายจีรวัฒน์ บัญชีธนาคาร กสิกรไทยชื่อบัญชี นายสิงขร รวมมูลค่าเกือบ 5 หมื่นบาท ในจำนวนผู้เสียหายทั้งหมด 28 คน และหลักฐานพูดคุยกลุ่มไลน์ชื่อว่า "Vaccine Sinopharm" เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับ ร.ต.อ.กิตติภณ พลเดช รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ หลังถูกมิจฉาชีพ อ้างตัวเป็นหมอหลอกให้จองวัคซีนซิโนฟาร์ม อ้างเหลือจากที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ที่ได้สั่งซื้อจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ หลังโอนเงินกลับไม่ได้ฉีดและเช็คสิทธิ์กับโรงพยาบาลก็ไม่มีชื่อจอง น.ส.เอ ผู้เสียหาย ให้เล่าว่า ตนเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง ได้รู้จักกับ น.ส.สุจิตตรา ทางเฟซบุ๊ก ที่อ้างตัวว่าเป็นหมอ ใช้ชื่อหมอน้ำ ประจำที่ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี อำเภอ ศรีราชา และชอบโพสต์เรื่องเกี่ยวกับการแพทย์ เวลาโพสต์จะเช็คอินที่ โรงพยาบาลนี้ตลอด และโพสรูปมุมทำงานตลอดภายในโรงพยาบาลตลอด รวมทั้งห้องฝ่าตัด และทุกคนในเฟสบอกคุณหมอสู้ ๆ นะ คุณหมอเป็นกำลังใจให้นะ และผู้ใหญ่หลายคนในศรีราชา รวมทั้ง ส.ส.ในศรีราชายังเรียกคุณหมอ จึงคิดว่าเป็นหมอจริง ๆ ตนจึงทักไปถามเรื่องวัคซีนว่าตัวไหนดีกว่ากัน ตัวไหนน่าฉีด ได้รับคำแนะนำทุกอน่างอย่างมีหลักการ เหมือนคนมีความรู้เรื่องการแพทย์ดีมาก ให้คำปรึกษาได้หมดเลย กระทั่งผู้ใหญ่ก็ยืนยันว่าสามารถปรึกษาได้หมดเลย เกี่ยวกับโรงพยาบาลนี้ เขาให้ข้อมูลได้ทุกอย่างแม้เรื่องต่างๆสามารถเดินเรื่องให้ได้ หลังจากนั้นมีการทักแซ็ทมาสอบถามว่าสนใจเรื่องวัคซีนซิโนฟาร์มอยู่หรือเปล่า พอดีได้โควต้าหมอ มาหลายสิทธิ์ ถ้าสนใจเดี๋ยวจะให้อาจารย์หมอโทรมาคุย โดยอ้างว่าอาจารย์หมอทำงานที่โรงพยาบาล สักพักก็มีผู้ชายโทรมา พูดคุยอย่างมีหลักการ ไม่ว่าจะถามเรื่องวัคซีน หรือสภาอุตสาหกรรม โรงพยาบาลจุฬา สามารถตอบได้ทุกเรื่องเลยจนเชื่อสนิทใจกัน และแนะนำตัวเองว่าเป็นอาจารย์ของหมอน้ำ ที่ตนติดต่ออยู่ และอ้างว่าตนเองมาดูเรื่องวิจัย เรื่องวัคซีนตัวนี้เป็นวัคซีนตัวใหม่ จะทำการวิจัย เป็นคณะกรรมการจัดสรรวัคซีนของสภาอุตสาหกรรม และแนะนำตัวเองว่าชื่อ หมอสิทธิโชค ถ้าสนใจจะส่งรายละเอียดให้ดู และสามารถจองให้ได้เลย เพราะเป็นโควตาของหมอเราเอง ตนจึงชักชวนเพื่อน ๆ เพื่อนก็สนใจเพราะอยากได้อยู่แล้ว เพราะวัคซีนทางเลือก ก็จองกันพร้อมส่งข้อมูลไป โดยชายคนดังกล่าวยังได้ติดต่อกลับมาว่า ทราบใช่ไหมว่าวัคซีนที่สภาอุตสาหกรรมกำหนด เข็มละ 900 บาท คนหนึ่งใช้ 2 เข็ม รวมเป็น 1,800 บาท ตอนแรกให้โอนมาก่อน 900 บาทเป็น มัดจำต่อคน เมื่อลงรายละเอียดเสร็จจะแจ้งไปได้สักพักก็ขอให้โอนเต็มโดยอ้างว่า สภาอุตสาหกรรมเขาไม่ยอมต้องจ่ายเต็มถึงจะจองได้ ทุกคนจึงโอนเพิ่มไปจนครบคนละ 1,800 บาท โดยที่พวกตนได้จองฉีดวัคซีดไว้ที่โรงพยาบาลศิครินทร์ และก่อนถึงวันฉีดคือวันที่ 28 มิถุนายน 2564 ได้มีการส่งลิ้งเป็นคิวอาร์โคทมาให้ กรอกรายละเอียด และหน้าจอที่ส่งมาเป็นหน้าจอของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พอพวกตนกรอกข้อมูลเข้าไป ก็ขึ้นมาเป็นคิวอาร์โคท จนถึงวันนัดฉีดพวกตนก็มั่นใจ ว่าได้คิวแน่นอน พอถึงคิวฉีดปรากฏว่าไม่มีรายชื่อที่จองคิว สักคน จึงให้ทางโรงพยาบาลตรวจสอบคิวอาร์โคทให้ ปรากฏว่า ว่างเปล่าไม่มีข้อมูลใด ๆ เลย จึงรู้ว่าถูกหลอก จึงเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้ทำการเชิญตัวผู้เสียหายทั้งหมดมาให้ปากคำ เพื่อรวบรวมหลักฐานในการติดตามชายคนดังกล่าวที่อ้างตัวเป็นหมอ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะทำเป็นกระบวนการมาทำการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป