กทม.ยังพบป่วยรายวันสูงสุด 2,267 ราย ตายสูงสุด 28 ราย สำหรับคลัสเตอร์ใหม่วันนี้มี 9 จุด ใน 6 จังหวัดดังนี้ กทม.พบที่แคมป์ก่อสร้าง ซ.สุขุมวิท 50 เขตคลองเตย พบติดเชื้อ43 ราย และโรงงานผลิตกระสอบพลาสติก เขตหนองแขม พบติดเขื้อ 70 ราย , สมุทรปราการ พบที่โรงงานเฟอร์นิเจอร์ 22 ราย , นนทบุรี พบที่ตลาดเทศบาลปากเกล็ด 43 ราย และตลาดพิชัย 75 ราย , สมุทรสาคร พบที่บริษัทผลิตภัณฑ์พลาสติก 12 ราย และโรงงานลูกชิ้น 11 ราย , สุราษฎร์ธานี แคมป์ก่อสร้าง พุนพิน 11 ราย , ขอนแก่น ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สีชมพู 45 ราย ขณะที่การติดเชื้อในปท.วันนี้ 6,076 ราย มาจากต่างประเทศ 11 ราย มีลอบเข้าประเทศตามช่องทางธรรมชาติจากกัมพูชา 1 ราย และเมียนมา 1 ราย ยอดติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 207 ราย  ยอดหายป่วย 3,638 ราย ยังรักษาอยู่ 54,440 ราย อาการหนักรวมโคม่าสูงขึ้น 2,002 ราย วันที่ 2 ก.ค.2564  ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศบค.) พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ใน ประเทศไทย ซึ่งล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 6,087 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 6,076 ราย (แยกเป็นจากระบบเฝ้าระวังและบริการสุขภาพ 3,905 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 1,964 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 207 ราย) และเดินทางมาจากต่างประเทศอีก 11 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 270,921 ราย วันนี้มีผู้เสียชีวิตอีก 61 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตขยับไปที่ 2,141 ราย รักษาหายเพิ่มอีก 3,638 ราย รวมยอดรักษาหาย 214,340 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 54,440 ราย เป็นการรักษาอยู่ในรพ.26,025 ราย รพ.สนาม 28,415 ราย ทั้งนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 2,002 ในจำนวนผู้ป่วยหนักนี้ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจถึง 579 ราย เฉพาะการระบาดในระลอกเดือนเมษายน ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.- 2 ก.ค.64 พบผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 6,087 ราย โดยมีผู้ป่วยยืนยันสะสม 242,058 ราย รักษาหายเพิ่ม 3,638 ราย รวมรักษาหายแล้ว 186,914 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 54,440 ราย เสียชีวิต 61 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 2,047 ราย รายละเอียดผู้เสียชีวิต 61 ราย เป็นเพศชาย 29 ราย เพศหญิง 32 ราย อายุ 30-90 ปี โดยเป็นผู้มีอายุมากกว่า 60ปีขึ้นไป คิดเป็น 70% อยู่ในพื้นที่ กทม.มากที่สุด 28 ราย นนทบุรี 9 ราย  สมุทรปราการ 8 ราย ปัตตานี 5 ราย ยะลา ปทุมธานี นราธิวาส จังหวัดละ 3 ราย เชียงราย สงขลา นครปฐม นครนายก พนะนครศรีอยุธยา จังหวัดละ 1 ราย โดยมีโรคประจำตัว เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคหัวใจ โรคปอด อ้วน มะเร็ง หลอดเลือดสมอง ซึ่งเป็นโรคประจำตัวที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น  โดยในจำนวนนี้ เป็นการติดเชื้อจากคนในครอบครัว และคนอื่นๆ มากเช่นเดิม  อาศัยและเดินทางเข้าไปในสถานที่ระบาด ไปในสถานที่แออัดพลุกพล่าน อาชีพเสี่ยง สำหรับ 10 อันดับที่พบผู้ป่วยภายในประเทศสูงสุด อันดับ 1 ยังเป็นกรุงเทพมหานคร 2,267 ราย อันดับ 2 สมุทรปราการ 522 ราย อันดับ 3 นนทบุรี 327 ราย อันดับ 4 สมุทรสาคร 289 ราย อันดับ 5 ปทุมธานี 284 ราย อันดับ 6 ชลบุรี 222 ราย อันดับ 7 ยะลา 201 ราย อันดับ 8 ปัตตานี 169 ราย อันดับ 9 สงขลา 167 ราย อันดับ 10 นราธิวาส 124 ราย