เมื่อวันที่ 2 ก.ค.นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะกมธ.การเงิน การคลัง สถาบันการเงินเเละตลาดการเงิน สภาฯ กล่าวถึงคำสั่งกำหนดมาตรการควบคุมของรัฐเรื่อง การห้ามนั่งทานอาหารในร้าน ให้ซื้อกลับบ้านได้เท่านั้นและมีคำสั่งปิดเเคมป์เเรงงาน 30 วัน ว่า ต้องยอมรับความจริงหลังจากมีประกาศดังกล่าว ทำให้ได้ยินเสียงร้องกันระงม เจ้าของร้านเหมือนถูกฟ้าผ่าแบบไม่รู้ตัว แต่ละร้านอยู่ในภาวะเปิดก็ติด ปิดก็ตาย ตัวเลขตลาดธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทย มีมูลค่าสูงกว่า 4 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากผู้ประกอบการขนาดเล็ก วันนี้ต้องแบกภาระทั้งค่าเช่า ค่าพนักงาน แถมการสั่งอาหารออนไลน์ ต้องโดนเก็บค่าเดลีเวอรี่มหาโหด จากราคาขายสูงถึง 30% ประกอบกับมาตรการที่ออกมาอย่างปัจจุบันทันด่วนเป็นเวลาถึง 1 เดือน ทั้งๆที่คลัสเตอร์ใหม่ที่เกิดขึ้น ชัดเจนว่าเกิดจากการอยู่ในที่แออัด ไม่ได้เกิดจากร้านอาหารที่บังคับให้เว้นระยะห่าง และรับลูกค้าได้เพียงร้อยละ 25 % จึงเป็นตัวอย่าง ว่าทำไมเสียงเรียกร้องในโลกโซเชียลมีเดีย ถึงเริ่มไม่ทน ไม่สน ไม่กลัว เกิดกรณีจะเปิดร้านใครจะทำไม นายอิสระ กล่าวว่า ยังมีตัวอย่างผลกระทบของคำสั่งดังกล่าว อาทิ กรณีเจ้าของร้านหมูกระทะเป๋าตุงถุงตังค์ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เป็นร้านหมูกระทะชื่อดัง จากข่าวบอกว่าเปิดขายมาเกือบ 10 ปี เจอพิษโควิดระรอก3 จนต้องเลิกกิจการ ประกาศขายมันทุกอย่าง ถ้วย ถัง กะละมัง หม้อ พัดลม กระทะไฟฟ้า โต๊ะหินอ่อน หวังนำเงินที่ได้ไปซื้อรถสามล้อพ่วงขายลูกชิ้นทอดประทังชีวิต นี่ยังไม่นับรวม ร้านอาหารอีสาน หรือร้านอาหารตามสั่ง ที่อยู่ใกล้แคมป์ก่อสร้าง ตามจุดที่ถูกคำสั่งควบคุมอีกจำนวนมาก ที่เจอผลกระทบจากยาเเรง เเต่การใช้ยาเเรงต้องเยียวยาอย่างทั่วถึงเเละตรงจุดควบคู่กันไปด้วย ขอเสนอแนวคิด 4 ย.ไปยังรัฐบาล คือ1.ยื่นมือ - ช่วยรับซื้ออาหารกล่อง หรือวัตถุดิบ จากร้านค้าที่ได้รับผลกระทบ แล้วแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ต้องกักตัวอยู่บ้าน 2.ยินยอม - ให้ผู้ประกอบการร้านอาหารและลูกจ้าง สามารถตรวจและฉีดวัคซีนได้อย่างเร่งด่วน 3.ยืดหยุ่น - ชะลอและลดภาระหนี้ให้แก่ผู้ประกอบการร้านอาหาร ให้การเยียวยาที่เป็นธรรมและยาวนานพอหากสถานการณ์ยืดเยื้อ และ4.ย้อนหลัง - ชดเชยภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการสั่งปิดของภาครัฐไม่ว่าจะเป็น ค่าเช่า ค่าจ้าง ค่าไฟ โดยชดเชยให้ตามระยะเวลาที่เคยล็อคดาวน์มาในอดีตจนถึงปัจจุบัน ข้อเสนอเหล่านี้ก็เพื่อพยุงลมหายใจบรรดาร้านอาหารพอจะไปต่อได้ ไม่ต้องตัดสินใจเลิกกิจการ เหมือนเจ้าของร้านหมูกระทะเป๋าตุงถุงตังค์ ที่จ.เพชรบูรณ์