สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า องค์การอนามัยโลก หรือดับเบิลยูเอชโอ (ฮู) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ประจำสัปดาห์ โดยระบุว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ซึ่งพบการกลายพันธุ์และแพร่ะบาดครั้งแรกในประเทศอินเดีย มีอัตราการแพร่เชื้อที่รวดเร็ว จนพบผู้ติดเชื้อในประเทศต่างๆ มากถึง 96 ประเทศทั่วโลกแล้ว เพิ่มขึ้นมา 11 ประเทศจากการรายงานเมื่อสัปดาห์ก่อน
รายงานขององค์การอนามัยโลก ยังเปิดเผยด้วยว่า อัตราการแพร่เชื้อที่รวดเร็วได้ทำให้ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา แซงหน้าไวรัสโควิด-19 สายพันธ์อัลฟา ซึ่งพบการกลายพันธุ์และแพร่ระบาดในอังกฤษเป็นครั้งแรก ถึงร้อยละ 55 ในเวลานี้ จนมีแนวโน้มว่า สายพันธุ์เดลตา จะกลายเป็นสายพันธุ์หลักของการแพร่ระบาดไปในพื้นที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก
พร้อมกันนี้ รายงานของดับเบิลยูเอช ยังแสดงความวิตกต่อสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาในประเทศต่างๆของภูมิภาคแอฟริกา ที่นอกจากทำให้มีอัตราการป่วยติดเชื้อสูงขึ้นแล้ว ยังทำให้อัตราการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นด้วย
รายงานข่าวยังเปิดเผยการรายงานของวารสารแลนเซ็ต ที่อ้างถึงงานวิจัยในสกอตแลนด์ ซึ่งระบุว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ทำให้ผู้ติดเชื้อต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาล มากกว่าไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อัลฟาถึงร้อยละ 85 ด้วยกัน