วันที่ 1 ก.ค.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. กล่าวถึง กรณีที่มีการนัดหมายชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และกลุ่มราษฎร ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 เวลา 16.00 น. โดยนัดรวมตัว ที่แยกอุรุพงษ์ เดินไปหน้าทำเนียบรัฐบาล ตามถนนพิษณุโลก “เปิดท้ายวันศุกร์รุกไล่เผด็จการนะจ๊ะ #ม็อบ2กรกฎา”
และในวันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม 2564 มีการนัดหมายชุมนุมของกลุ่มต่างๆดังนี้
1.กลุ่มประชาชนคนไทย โดยนายนิติธร ล้ำเหลือ เวลา 15.00 น. นัดรวมกลุ่มที่แยกอุรุพงษ์ แล้วเดินไปหน้าทำเนียบรัฐบาล เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก
2.กลุ่มไทยไม่ทน โดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ เวลา 16.00 น. นัดรวมกลุ่มที่แยกผ่านฟ้า แล้วเดินไปหน้าทำเนียบรัฐบาล ตามถนนนครสวรรค์ ขับไล่นายกรัฐมนตรี
3.กลุ่มนายสมบัติ บุญงามอนงค์ เวลา 17.00 น. นัดรวมกลุ่มทำกิจกรรม Mob ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ขับขี่รถไปทำเนียบรัฐบาล เปิดไฟกระพริบพร้อมบีบแตร ขับไล่นายกรัฐมนตรี
กรณีดังกล่าว ที่มีการเชิญชวนให้มาร่วมชุมนุม ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 ของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และกลุ่มราษฎร ที่มีลักษณะเป็นการเปิดท้ายขายของคล้ายตลาดนัด โดยอ้างว่าเพื่อเป็นช่องทางให้ประชาชนได้ทำมาหากินนั้น กรณีดังกล่าวเป็นการชุมนุมหรือจัดกิจกรรมที่ฝ่าฝืนกฎหมาย เนื่องจากขณะนี้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 อย่างรุนแรงในเขตพื้นที่ กทม. ล่าสุด วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 กรุงเทพมหานครมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1,960 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 32 ราย โดย ได้มีข้อกำหนดออกตามมาตรา 9 แห่ง พรก.ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 25 ลงวันที่ 26 มิ.ย. 2564 และประกาศกรุงเทพมหานคร ฉบับที่ 34 ลงวันที่ 27 มิ.ย. 2564 เกี่ยวกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ซึ่งกรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การรวมกลุ่มหรือทำกิจกรรม มากกว่า 20 คนจะต้องถูกดำเนินคดีทั้งแกนนำและผู้ร่วมชุมนุม และหากมีการกระทำความผิดในส่วนอื่นเพิ่มเติมจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย
นอกจากนี้การรวมตัวขายสินค้าต่างๆโดยปิดถนนสายสำคัญของกรุงเทพมหานคร ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีโรงเรียน, โรงพยาบาล, ชุมชน และสถานที่ราชการ ยิ่งเป็นการซ้ำเติมให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากยิ่งขึ้น และทางกองบัญชาการ ตำรวจนครบาลจะจัดเจ้าหน้าที่บันทึกภาพ และเสียง ตลอดจนพฤติกรรมผู้ที่มาเปิดแผงค้าขาย สินค้าต่างๆที่ปิดการจราจร หรือละเมิดกฎหมายและจะนำตัวมาดำเนินคดีทุกราย
ในส่วนของวันที่ 3 กรกฎาคม 2564 ที่มีการนัดหมายชุมนุมของกลุ่มนายสมบัติบุญงามอนงค์ ที่มีลักษณะเป็นการรวมกลุ่มขับรถเป็นขบวนไปตามท้องถนนหลายคัน ทำให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนไม่ได้รับความสะดวก หรือทำให้การจราจรติดขัด อีกทั้งจะก่อให้เกิดเสียงดังอื้ออึง ก่อความเดือดร้อนรำคาญ และอาจทำให้เกิดอันตรายต่อประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนผู้อื่น และรถที่ใช้ในการชุมนุมถือว่าเป็นทรัพย์ที่มีไว้หรือเพื่อใช้ในการกระทำผิด อาจเป็นเหตุให้พนักงานสอบสวนยึดไว้เพื่อประกอบการดำเนินคดี และอาจพิจารณาขอให้ศาลสั่งริบตามกฎหมาย ซึ่งอาจจะเป็นความผิดขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 และในส่วนของกลุ่มประชาชนคนไทย และกลุ่มไทยไม่ทน ที่มีลักษณะเป็นการชุมนุมและเคลื่อนขบวนไปตามถนนก็จะเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน และหากมีผู้ร่วมกิจกรรมเกินกว่า 20 คน ก็จะมีความผิดตาม พรก.ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 25
จึงอยากจะเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมให้มีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยการหลีกเลี่ยงหรืองดเว้นการเข้าร่วมการชุมนุม เพราะมีโอกาสที่จะติดเชื้อโรคระบาดแล้วนำไปแพร่กระจายต่อได้โดยง่าย