คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกันแถลง ดำเนินคดีกับชาย วัย 41 ปี เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ไม่รายงานตัว ไม่กักตัว ฝ่าฝืนคำสั่งประกาศฯ ทำให้มีผู้สัมผัส 9 ราย ปิดโรงเรียน 5 แห่ง มีโทษตามกฏหมาย พร้อมรับคนบุรีรัมย์กลับบ้าน มีที่รักษา มีที่กักตัวครบ 14 วัน ได้รับวัคซีนทุกคน
วันนี้( 1 ก.ค. 64) เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมชั้น 2 สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ต.อิสาณ อ.เมือง จ. บุรีรัมย์ นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พลตำรวจตรี รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และนายพิเชษฐ พืดขุนทด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ แถลงข่าวการดำเนินคดีกับผู้ที่เดินทางจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ไม่รายงานตัว ไม่กักตัว ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ และการเตรียมพร้อมรับคนบุรีรัมย์กลับบ้าน จากเหตุการณ์การระบาดในแคมป์คนงานก่อสร้าง ซึ่งกระจายไปในหลายแห่งในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่ง ศบค. ได้ประกาศกำหนดปิดแคมป์ดังกล่าว เป็นระยะเวลา 1 เดือน
นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์การระบาดในแคมป์คนงานก่อสร้างซึ่งกระจายไปในหลายแห่งในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่ง ศบค. ได้ประกาศกำหนดปิดแคมป์ดังกล่าวเป็นระยะเวลา 1 เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป ทำให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงมีโอกาสเดินทางกลับไปยังภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการแพร่กระจายของโรคฯ เป็นบริเวณกว้าง ซึ่งจังหวัดบุรีรัมย์โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ได้มีมติจัดเตรียมพื้นที่กักกันโรคของรัฐในระดับจังหวัด/อำเภอ (Local Quarantine) ในท้องที่ที่อำเภอกำหนด เพื่อรองรับสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่อาจเกิดการแพร่ระบาดที่รุนแรงเป็นบริเวณกว้าง
สำหรับประชาชนชนชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ต้องการกลับมา ทั้งรักษาตัวและกักตัวสามารถประสานงานล่วงหน้าที่เบอร์ Hotline EOC COVID จังหวัดบุรีรัมย์ที่เบอร์ 191 หรือ 044-602-215 หรือเบอร์โทรศัพท์ Hotline EOC COVID ประจำหน่วยบริการสาธารณสุขในพื้นที่
จึงขอความร่วมมือจากประชาชนทุกคนที่จะเดินทาง เข้าสู่จังหวัดบุรีรัมย์ ขอให้ได้ปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้คนบุรีรัมย์ปลอดภัยปลอดโรคและมีสุขภาพที่ดีร่วมกัน พร้อมเปิดเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ และสร้างความสุขให้คืนกลับมาสู่พี่น้องชาวบุรีรัมย์ดังเดิม
ด้าน นายพิเชษฐ พืดขุนทด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จากข้อมูลการเฝ้าระวัง พบว่า ขณะนี้มีประชาชนที่เดินทางมาจากพื้นที่สีแดงเข้ม และพื้นที่สีแดง ได้กักกันตัวในพื้นที่กักกันโรคของรัฐในระดับจังหวัด/อำเภอ (Local Quarantine) ในท้องที่ที่อำเภอกำหนด จำนวน 654 ราย กักกันตัวอยู่ที่บ้าน จำนวน 20,635 ราย (เฝ้าระวังยังไม่ครบ 14 วัน จำนวน 641 ราย) แต่ยังคงพบเหตุการณ์มีผู้ ติดเชื้อที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงที่พบการระบาดของโรคโดยไม่ผ่านการกันกันตัวตามประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ที่กำหนด
จังหวัดบุรีรัมย์ พบผู้ป่วยยืนยันสะสม ณ วันที่ 30 มิ.ย.64 จำนวน 304 ราย อยู่ระหว่างการรักษา จำนวน 75 ราย หายป่วยและกลับบ้านแล้ว จำนวน 226 ราย เสียชีวิตสะสม 3 ราย ซึ่งยังคงพบเหตุการณ์สำคัญที่ต้องเฝ้าระวังฯ ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด คือ กรณีประชาชน กลุ่มเสี่ยงไม่ปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ในพื้นที่ บ้านปลัดชุมแสง ตำบลบ้านบัว อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ และต่อมาภายหลัง ได้ตรวจพบเชื้อโควิด-19 โดยผู้ป่วยรายนี้ เป็นเพศชาย อายุ 41 ปี ประกอบอาชีพช่างก่อสร้าง พุทธมณฑลสาย 1 ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร โดยมีประวัติการเดินทางมายังจังหวัดบุรีรัมย์
วันที่ 25 มิ.ย.64 เดินทางมาจากกรุงเทพมหานครโดยขับรถยนต์ส่วนตัว ไม่มีผู้โดยสารร่วม ซึ่งถือเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ประกาศกำหนด และสอดคล้องตามประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ทั้งนี้ ชายผู้นี้ได้ขับรถยนต์ส่วนตัวถึงบ้านปลัดชุมแสง ตำบลบ้านบัว อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ในช่วงเวลาตี 1 ของวันที่ 26 มิถุนายน 2564 โดยไม่ได้รายงานตัว หรือแจ้งต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ ซึ่งมีพฤติกรรมเสี่ยงในการดำเนินชีวิตตลอดระยะเวลาที่พักอาศัยในจังหวัดบุรีรัมย์ เช่น ขับรถไปส่งและรับบุตรชายเพื่อเรียนพิเศษ รวมทั้งพูดคุยพบปะกับเพื่อนบ้าน เป็นต้น
ต่อมา ในวันที่ 28 มิถุนายน 2564 ชายรายดังกล่าว พบอาการผิดปกติ จึงเดินทางไปโรงพยาบาลบุรีรัมย์ เพื่อตรวจทางห้องปฏิบัติการหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี Rapid Test ผลการตรวจพบเชื้อโควิด-19 และตรวจยืนยันอีกครั้งด้วยเทคนิค Real time RT-PCR ผลตรวจพบเชื้อโควิด-19 ซึ่งขณะนี้ผู้ป่วยยังคงอยู่ระหว่างพักรักษาตัว ณ โรงพยาบาลบุรีรัมย์
จากการค้นหาผู้สัมผัสเพิ่มเติมในครอบครัวและชุมชน พบว่า มีผู้สัมผัสเพิ่มเติมรวมทั้งสิ้น จำนวน 9 ราย โดยแบ่งเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดภายในครอบครัว จำนวน 6 ราย (ได้รับวัคซีนป้องกัน โควิด-19 ครบตามจำนวนแล้ว 2 ราย) และเป็นผู้สัมผัสที่เป็นเพื่อนบ้านใกล้เคียง จำนวน 3 ราย ขณะนี้ผู้สัมผัสทุกรายอยู่ระหว่างการกักตัวเพื่อเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิดตามแนวทางการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคฯ ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด และเป็นเหตุให้เกิดความกังวลให้ผู้อำนวยการโรงเรียน สั่งปิดโรงเรียนถึง 5 โรงเรียน
ขณะที่ พลตำรวจตรี รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นได้ว่าผู้ป่วยรายนี้ ฝ่าฝืนไม่ได้ปฏิบัติตนเพื่อเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ตามประกาศคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ เรื่อง การป้องกันการระบาดใหม่ของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2564 แก้ไขเพิ่มเติม ครั้งที่ 9 ถือว่ามีความผิด ที่ต้องรับโทษ โดยฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ เรื่อง การป้องกันการระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2564 แก้ไขเพิ่มเติม ครั้งที่ 9 ในข้อ 8 ประกาศ ณ วันที่ 25 มิถุนายน 2564 คือ ผู้ที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดบุรีรัมย์ ที่มาจากจังหวัด 1) พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือ 2) พื้นที่ควบคุมสูงสุด ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ประกาศกำหนด และที่ ศบค. จะมีการแก้ไขในภายหน้า (ถ้ามี) ให้ผู้เดินทางทุกคนต้องรายงานตัวกับเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อที่ด่านคัดกรองโควิดในพื้นที่ และต้องกักกันตัว 14 วัน ณ พื้นที่กักกันโรคแห่งรัฐ ระดับจังหวัด/อำเภอ (Local Quarantine) ในท้องที่ที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ฝ่ายสาธารณสุขกำหนด ซึ่งบทลงโทษ ผู้ใดฝ่าฝืน ข้อ 8/1 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท ตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558