"ศบค."แถลงพบผู้ติดเชื้อโควิค-19 รายใหม่ 4,786 ราย สั่งระดมเครื่องช่วยหายใจช่วยผู้ป่วยในพื้นที่ กทม. "หมอทวีศิลป์"ขอใช้คำว่า"อึด ฮึด สู้"โควิดอีกครั้ง ขณะที่"เลขาฯสมช."รับโควิดระบาดเข้าสู่ระลอก 4 วอนผู้ประกอบการหยุดแคมเปญ "#กูจะเปิดมึงจะทำไม" หวั่นทำเชื้อระบาดหนัก ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.64 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,786 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 3,303 ราย จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 1,347 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 127 ราย ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 9 ราย โดยยังคงพบการเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ โดยมาจากเมียนมา 2 ราย และกัมพูชา 7 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 53 ราย แยกเป็นเพศชาย 30 ราย เพศหญิง 23 ราย อายุระหว่าง 24-97 ปี ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ยังมาจาก กทม. 35 ราย, ปทุมธานี สมุทรปราการ จังหวัดละ 3 ราย, นครปฐม ยะลา สงขลา จังหวัดละ 2 ราย, จันทบุรี นครสวรรค์ ปัตตานี อุตรดิตถ์ อุบลราชธานี ชลบุรี จังหวัดละ 1 ราย โดยยังพบการติดเชื้อในครอบครัว การเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง และมีโรคประจำตัว สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 259,301 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 207,479ราย เพิ่มขึ้น 2,415 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 2,023 ราย ล่าสุดมีการรวบรวมเครื่องช่วยหายใจจากต่างจังหวัดส่งมาช่วยในพื้นที่กรุงเทพมหานครแล้ว นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในวันนี้ เราคงจะต้องนำคำว่า "อึด ฮึด สู้" กลับมาใช้อีกครั้ง เพื่อ ขอความร่วมมือให้ช่วยกันสร้างกำลังใจ ช่วยกันฝ่าวิกฤตโควิด-19 เพราะขณะนี้ เราเผชิญหน้ากับการระบาดระลอกที่มีความรุนแรงสูง การติดเชื้อมายาวนาน เกิดความทุกข์ทางกายและมีความเหนื่อยล้าทางอารมณ์ ไม่ใช่ประเทศไทยประเทศเดียว หลายประเทศก็พบการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นเช่นกัน เช่น ประเทศออสเตรเลีย ที่ต้องกลับใช้วิธีการล็อกดาวน์ ควบคุมจำกัดในการเดินทาง หรือบางประเทศก็ต้องใช้ยาแรง ทำให้กระทบชีวิตประจำวัน ในส่วนของไทย เราก็มีวิธีการใช้ แก้ปัญหาในแบบของเรา ด้าน พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ผู้ประกอบการร้านอาหารร่วมกันผุดแคมเปญ "#กูจะเปิดมึงจะทำไม" ในสื่อโซเชียล เพื่อแสดงอารยะขัดขืนต่อมาตรการของศบค.ที่ไม่ให้นั่งรับประทานอาหารในร้าน ว่า รับทราบแล้ว และขอความร่วมมือ เพราะถ้าทำอย่างนั้น มีโอกาสเสี่ยงทั้งตัวผู้ประกอบการและผู้บริโภค ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้ายังมีการเดินหน้าแคมเปญนี้อยู่ รัฐบาลจำเป็นต้องใช้มาตรการทางกฎหมายไปจัดการหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า คงต้องดูด้วย แต่ในขั้นต้นอยากขอความร่วมมือก่อน ในบรรยากาศเป็นอย่างนี้ ถ้าไปใช้มาตรการกฎหมายในทันที อาจทำให้ตรึงเครียดมากขึ้น ตอนนี้เราคงเข้าไปพูดคุยขอความร่วมมือว่าถ้าทำอย่างนั้น อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดมากขึ้น และที่ผ่านมา จากการสอบสวนโรค พบว่ามาจากลักษณะรวมกลุ่มไปรับประทานอาหารแล้วติดเชื้อกันมา เมื่อถามว่าช่วงที่มีตัวแทนผู้ประกอบการร้านอาหารมาหารือกับ ศบค. ได้พูดถึงเงื่อนไขที่จะไม่ปฏิบัติตาม บ้างหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ไม่ได้พูด เขาขอให้รัฐบาลดูแลเยียวยา ศบศ.เยียวยาในรอบนี้เยอะ ทั้งผู้ประกอบการและพนักงาน เมื่อถามย้ำว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเชิญผู้ประกอบการที่ผุดแคมเปญนี้มาหารือกันก่อน เพื่อไม่ให้ไปประท้วงลงถนน พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า คงต้องขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนให้ทำความเข้าใจในเรื่องนี้กับทุกคนว่าถ้าทำอย่างนั้น จะทำให้เกิดการติดเชื้อและแพร่ระบาดมากขึ้น รวมถึงสังคมโดยรวมเดือดร้อนไปด้วย จึงต้องขอความร่วมมือและความเห็นใจ ส่วนรัฐบาลและ ศบค.จะขอดูสถานการณ์เมื่อผ่านไป 15 วัน ถ้าคลี่คลาย ก็จะพิจารณาผ่อนคลายให้ ขอประเมินก่อน และในวันนี้ยังเห็นว่าตัวเลขทรงตัวอยู่ ทั้งที่มีมาตรการออกมาแล้ว ต่อข้อถามว่าผู้ประกอบการธุรกิจกลางคืนและสถานบันเทิงที่ถูกสั่งปิดมาตั้งแต่รอบแรก มองว่ายังไม่ได้รับการเยียวยาจากรัฐบาล เหมือนกับธุรกิจประเภทอื่น กล่าวว่า รอบนี้เขาก็ได้รับการดูแลด้วยตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่อาจไม่เท่ากับที่เขาขอมา เมื่อถามถึงกรณีที่มีอาจารย์แพทย์จากโรงพยาบาลศิริราชบอกว่าตอนนี้ถือว่าเข้าสู่การระบาดระลอกที่ 4 ในเร็วๆนี้ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ใช่ เพราะปัจจุบัน เพราะสายพันธุ์เดลตาที่มาจากประเทศอินเดีย มีการแพร่ระบาดที่เร็ว อาจารย์แพทย์หลายก็เป็นห่วง จึงได้เสนอมาตรการต่างๆออกมาด้วยความห่วงใย แต่ก็รับทราบถึงความเดือนร้อนของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการและพนักงาน แม้มีการฉีดวัคซีนป้องกันแล้ว อย่างเช่น ประเทษอิสราเอลและอังกฤษมีปริมาณการฉีดวัคซีนให้ประชาชนจำนวนมากพอแล้ว แต่เขาก็ยังย้อนกลับมาล็อกดาวน์อีกรอบ การฉีดวัคซีนไม่ได้รับประกันว่าไม่ติดเชื้อ แต่ยังต้องระวังกันเหมือนเดิม ต่อข้อถามถึงสถานการณ์โรงพยาบาลในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จ.ปัตตานีที่เริ่มจะรับปริมาณผู้ป่วยไม่ไหวแล้ว พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ยอมรับว่าเป็นห่วงเรื่องนี้เช่นกัน เมื่อถามว่ากรณีที่พบสารละลายลักษณะเจลอยู่ในขวดวัคซีนของบริษัท ซิโนแวค บางล็อต พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขยืนยันแล้วสาเหตุเกิดจากอะไร ให้ฟังจากกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลัก แต่ตนยืนยันว่าไม่ได้มีการฉีดวัคซีนตัวที่มีปัญหาให้กับประชาชน และวัคซีนไม่ได้เกิดปัญหาตั้งแต่ต้น แต่เกิดจากการเก็บในที่ที่มีอุณหภูมิเย็นเกินไป ไม่ได้เป็นทั้งล็อต เมื่อเขาพบก่อน จึงมีการแจ้งเตือน