วันที่ 29 มิถุนายน 2564 สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอ่างทอง จัดโครงการ "ธนาคารเวลาของประเทศไทย" โดยมีนางวาสนา ทองจันทร์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอ่างทอง กล่าววัตถุประสงค์ของโครงการ และแนวทางการดำเนินงานจัดตั้งธนาคารเวลาของประเทศไทยในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลตลาดใหม่ และนายธวัช ทองโอภาส นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตลาดใหม่ เป็นประธานในการเปิดโครงการ โดยมีผู้สูงอายุในโรงเรียนผู้สูงอายุตำบลตลาดใหม่ และเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมโครงการ จำนวน 50 คน มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายทางสังคม ให้ตระหนักถึงการช่วยเหลือเกื้อกูลกับส่งเสริมสุขภาพสังคม เศรษฐกิจ และสภาพแวดล้อม ซึ่งสถานการณ์ผู้สูงอายุจังหวัดอ่างทองมีประชากรผู้สูงอายุ ร้อยละ 22.41% ของประชากรทั้งหมด
ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมการเพื่อการดูแลผู้สูงอายุโดยมีการเตรียมความพร้อมของหน่วยงาน บุคลากรมีนโยบายในการส่งเสริมด้านต่างๆ เช่น การทำงานอย่างต่อเนื่อง การหารายได้เพิ่ม การออม การพัฒนาระบบบำนาญ ของรัฐ การมีสวัสดิการผู้สูงอายุ เป็นต้น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จึงได้นำรูปแบบแนวคิด “ธนาคารเวลา” (Time bank) มาปรับใช้ โดยนำรูปแบบการดำเนินงานของธนาคารเวลา นำมาประยุกต์ใช้เป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาการเข้าถึงบริการ แนวคิดธนาคารเวลาที่จะสามารถนำมาปรับใช้กับบริบทและวัฒนธรรมสังคมไทย ด้วยประเทศไทยมีทุนทางสังคมและวัฒนธรรมที่เข้มแข็งในเรื่องของ ความเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่การดูแลซึ่งกันและกัน และมีจิตอาสาที่เข้ามาเป็นอาสาสมัครอยู่เป็นจำนวนมากซึ่งสอดรับกับแนวคิดธนาคารเวลาดังนั้น รัฐบาลจึงได้มอบหมายให้กรมกิจการผู้สูงอายุ นำแนวคิดธนาคารเวลามประยุกต์ใช้ในการดำเนินงานของประเทศไทย ซึ่งกำหนดให้ธนาคารเวลา เป็น 1 ใน 10 ประเด็นเร่งด่วนด้านผู้สูงอายุเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสังคมผู้สูงอายุ ที่มีเป้าหมายหลัก คือ ผู้สูงอายุไทย
โครงการธนาคารเวลาของประเทศไทย จึงเป็นโครงการที่มุ่งหวังให้เป็นแนวทางสำหรับบุคคลหน่วยงาน องค์กรที่สนใจจัดตั้งดำเนินงานธนาคารเวลาได้รับรู้ และเข้าใจคำว่าธนาคารเวลามากขึ้น ทั้งในเชิงทฤษฎีและเชิงปฏิบัติเป็นแนวทางในการจัดตั้งและดำเนินงานธนาคารเวลา โดยกำหนดพื้นที่ต้นแบบของโครงการธนาคารเวลาของประเทศไทย (จังหวัดอ่างทอง) ตำบลตลาดใหม่ อำเภอวิเศษชัยชาญ เป็นพื้นที่นำร่องแห่งที่ 2 ในการดำเนินโครงการธนาคารเวลาของประเทศไทย เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินงานธนาคารเวลาให้กับประชาชนในพื้นที่ ต่อไป
ในการประชุมครั้งนี้ ได้รับฟังการบรรยายความรู้จาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มิ่งขวัญ คงเจริญ คณะศึกษาศาสตร์ มศว. โดยสรุปหัวข้อบรรยายประกอบด้วย ที่มาและความจำเป็นของธนาคารเวลา
รูปแบบกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมให้ชุมชนดูแลซึ่งกันและวัตถุประสงค์ของธนาคารเวลาและการจัดตั้งธนาคารเวลา 10 ขั้นตอนเชิงปฏิบัติการ
ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมการเพื่อการดูแลผู้สูงอายุโดยมีการเตรียมความพร้อมของหน่วยงาน บุคลากรมีนโยบายในการส่งเสริมด้านต่างๆ เช่น การทำงานอย่างต่อเนื่อง การหารายได้เพิ่ม การออม การพัฒนาระบบบำนาญ ของรัฐ การมีสวัสดิการผู้สูงอายุ เป็นต้น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จึงได้นำรูปแบบแนวคิด “ธนาคารเวลา” (Time bank) มาปรับใช้ โดยนำรูปแบบการดำเนินงานของธนาคารเวลา นำมาประยุกต์ใช้เป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาการเข้าถึงบริการ แนวคิดธนาคารเวลาที่จะสามารถนำมาปรับใช้กับบริบทและวัฒนธรรมสังคมไทย ด้วยประเทศไทยมีทุนทางสังคมและวัฒนธรรมที่เข้มแข็งในเรื่องของ ความเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่การดูแลซึ่งกันและกัน และมีจิตอาสาที่เข้ามาเป็นอาสาสมัครอยู่เป็นจำนวนมากซึ่งสอดรับกับแนวคิดธนาคารเวลาดังนั้น รัฐบาลจึงได้มอบหมายให้กรมกิจการผู้สูงอายุ นำแนวคิดธนาคารเวลามประยุกต์ใช้ในการดำเนินงานของประเทศไทย ซึ่งกำหนดให้ธนาคารเวลา เป็น 1 ใน 10 ประเด็นเร่งด่วนด้านผู้สูงอายุเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสังคมผู้สูงอายุ ที่มีเป้าหมายหลัก คือ ผู้สูงอายุไทย
โครงการธนาคารเวลาของประเทศไทย จึงเป็นโครงการที่มุ่งหวังให้เป็นแนวทางสำหรับบุคคลหน่วยงาน องค์กรที่สนใจจัดตั้งดำเนินงานธนาคารเวลาได้รับรู้ และเข้าใจคำว่าธนาคารเวลามากขึ้น ทั้งในเชิงทฤษฎีและเชิงปฏิบัติเป็นแนวทางในการจัดตั้งและดำเนินงานธนาคารเวลา โดยกำหนดพื้นที่ต้นแบบของโครงการธนาคารเวลาของประเทศไทย (จังหวัดอ่างทอง) ตำบลตลาดใหม่ อำเภอวิเศษชัยชาญ เป็นพื้นที่นำร่องแห่งที่ 2 ในการดำเนินโครงการธนาคารเวลาของประเทศไทย เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินงานธนาคารเวลาให้กับประชาชนในพื้นที่ ต่อไป
ในการประชุมครั้งนี้ ได้รับฟังการบรรยายความรู้จาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มิ่งขวัญ คงเจริญ คณะศึกษาศาสตร์ มศว. โดยสรุปหัวข้อบรรยายประกอบด้วย ที่มาและความจำเป็นของธนาคารเวลา
รูปแบบกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมให้ชุมชนดูแลซึ่งกันและวัตถุประสงค์ของธนาคารเวลาและการจัดตั้งธนาคารเวลา 10 ขั้นตอนเชิงปฏิบัติการ