กทม.ยังแชมป์ป่วย-ตายรายวันสูงสุด 1,692 ราย ตาย 19 ราย สำหรับคลัสเตอร์ใหม่วันนี้มี 6 จุด ใน 6 จังหวัดดังนี้ สมุทรสาคร โรงงานห้องเย็น พบติดเชื้อ 9 ราย , ปทุมธานี ลำลูกกา โรงงานทำสบู่ พบติดเชื้อ 46 ราย , นครปฐม นครชัยศรี โรงงานยางรถยนต์ พบติดเชื้อ 14 ราย , ระยอง อ.แกลง บริษัทผลิตสายไฟ พบติดเชื้อ 12 ราย , พระนครศรีอยุธยา บางปะอิน บริษัทผลิตแผงวงจรไฟฟ้า พบติดเชื้อ 11 ราย , เพชรบุรี เขาย้อย บริษัทไม่ระบุ พบติเชื้อ 25 ราย ขณะที่การติดเชื้อในปท.วันนี้ 4,634 ราย มาจากต่างประเทศ 28 ราย มีลอบเข้าประเทศตามช่องทางธรรมชาติจากกัมพูชา 8 ราย ยอดติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 10 ราย  ยอดหายป่วย 2,793 ราย ยังรักษาอยู่ 47,481 ราย อาการหนักรวมโคม่าสูงขึ้น 1,846 ราย วันที่ 29 มิ.ย.2564  ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศบค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ใน ประเทศไทย ซึ่งล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 4,662 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 4,634 ราย (แยกเป็นจากระบบเฝ้าระวังและบริการสุขภาพ 3,683 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 941 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 10 ราย) และเดินทางมาจากต่างประเทศอีก 28 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 254,511 ราย วันนี้มีผู้เสียชีวิตอีก 36 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตขยับไปที่ 1,970 ราย รักษาหายเพิ่มอีก 2,793 ราย รวมยอดรักษาหาย 205,064 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 47,481 ราย เป็นการรักษาอยู่ในรพ.20,732 ราย รพ.สนาม 26,749 ราย ทั้งนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 1,846 ในจำนวนผู้ป่วยหนักนี้ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจถึง 527 ราย เฉพาะการระบาดในระลอกเดือนเมษายน ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.- 29 มิ.ย.64 พบผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 4,662 ราย โดยมีผู้ป่วยยืนยันสะสม 225,652 ราย รักษาหายเพิ่ม 2,793 ราย รวมรักษาหายแล้ว 177,638 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 47,481 ราย เสียชีวิต 36 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 1,874 ราย รายละเอียดผู้เสียชีวิต 36 ราย เป็นเพศชาย 20 ราย เพศหญิง 16 ราย อายุ 41-93 ปี อยู่ในพื้นที่ กทม.มากที่สุด 19 ราย นนทบุรี 7 ราย นครปฐม เชียงราย จังหวัดละ 2 ราย สมุทรสาคร สมุทรปราการ ชลบุรี สงขลา ปราจีนบุรี สมุทรสงคราม จังหวัดละ 1 ราย โดยมีโรคประจำตัว เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคหัวใจ โรคปอด อ้วน มะเร็ง หลอดเลือดสมอง โรคเลือด  ซึ่งเป็นโรคประจำตัวที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น  โดยในจำนวนนี้ เป็นการติดเชื้อจากคนในครอบครัว และคนอื่นๆ มากเช่นเดิม  อาศัยและเดินทางเข้าไปในสถานที่ระบาด ไปในสถานที่แออัดพลุกพล่าน อาชีพเสี่ยง สำหรับ 10 อันดับที่พบผู้ป่วยภายในประเทศสูงสุด อันดับ 1 ยังเป็นกรุงเทพมหานคร 1,692 ราย อันดับ 2 สมุทรปราการ 647 ราย อันดับ 3 สมุทรสาคร 293 ราย อันดับ 4 นนทบุรี 185 ราย อันดับ 5 สงขลา 182 ราย อันดับ 6 ปทุมธานี 180 ราย อันดับ 7 นครปฐม 168 ราย อันดับ 8 ชลบุรี 146 ราย อันดับ 9 ปัตตานี 143 ราย อันดับ 10 ยะลา 89 ราย