เมืองไทยฯรุกปรับทัพใหญ่ “สาระ”ประกาศตั้ง”สุธี ”รั้งตำแหน่งเอ็มดีคนใหม่มีผล1ก.ค.​ ขับเคลื่อนนำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์คนมีรายได้น้อยให้เข้าถึงประกัน พร้อมกับช่วยลดต้นทุนต่อกรมธรรม์ลง รวมถึงใช้ประโยชน์เทคโนโลยีมาจับ เพื่อพัฒนาออกผลิตภัณฑ์ประกันใหม่ๆ เพื่อเปิดโอกาสให้คนที่เป็นโรคได้มีสิทธิ์ซื้อ นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเมืองไทยประกันชีวิต จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้แต่งตั้งดร.สุธี โมกขะเวส รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ซึ่งดูแลสายงานยุทธศาสตร์องค์กร ขึ้นมาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการแทนตนเอง โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป โดยตนเองจะรับผิดชอบเพียงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “หลังจากรันองค์กรนี้มายาวนานมาก ควบสองตำแหน่งมาตั้งแต่คุณภูมิชาย ล่ำซำเกษียณ จนองค์กรขยับขยายใหญ่ขึ้นมาก ซึ่งต่อไปผมรันคนเดียวคงไม่ได้ จึงจำเป็นต้องหาคนที่มีองค์ความรู้มาช่วย ซึ่งดร.สุธี ถือว่ามีองค์ความรู้หลายด้าน ดร.สุธีถือว่าไม่ใช่คนใหม่ อยู่องคก์รนี้มายาวนาน หลายคนคงคุ้นเคยอย่างดี จบการศึกษามาดีมาก เป็นสายเลือดเมืองไทยฯโดยตรง เป็นน้องชายผมเอง ลูกพี่ลูกน้อง ซึ่งคุณแม่ก็นามสกุลล่ำซำ โดยดร.สุธีมาจอยกับเมืองไทยนานแล้ว อายุอานาม 46 ก็ไม่ใช่หนุ่มน้อยแล้ว ยังเพียบพร้อมด้วยความรุ้ประสบการณ์ ซึ่งดร.สุธีจะขึ้นตรงกับผม ต้องยอมรับว่าผมควบตำแหน่งนี้มา 17 ปีแล้ว ถึงเวลาแล้วที่ผมจำเป็นต้องมีคนที่มีความพร้อม มีความสามารถ รู้จักเมืองไทยดี เข้ากับผู้บริหารเมืองไทยประกันชีวิตได้อย่างดี และที่สำคัญทำงานกับผมได้มาทำงานตรงนี้ สิ่งเหล่านี้คณะกรรมการบริษัท ได้อนุมัติแล้ว ให้ดร.สุธีดำรงตำแหน่งนี้ โดยที่สายงานดร.สุธีจะดูแลด้านโอเปเรชั่นด้านดิจิทัล ซึ่งต่อไปก็จะทำให้ผมมีเวลามากขึ้น สำหรับองค์กรที่ใหญ่ขึ้น ต่อไปผมก็จะไปเป็นผู้วางนโยบาย และเอาเวลาไปดูแลช่องทางคอมเมอร์เชียลทั้งหมด ซึ่งมันมีอะไรต้องทำเยอะแยะ ซึ่งมันจะเป็นสเต็บต่อไป”นายสาระ กล่าว ด้านดร.สุธี โมขขะเวส ว่าที่กรรมการผู้จัดการคนใหม่ กล่าวว่า “ต้องขอบพระคุณคุณสาระอย่างมาก ที่ให้ความไว้วางใจในตัวผม ตั้งแต่ต้นมาเริ่มทำงานที่นี่ ได้เรียนถูกเรียนผิดมาตลอด และคิดว่า สิ่งที่ผมจะเข้ามาช่วยก็คือขับเคลื่อนบิสซิเนสควบไปกับดิจิทัล หรือดาต้าดิจิทัล และบิสซิเนสใหม่ๆที่อาจจะลิ่งค์กับธุรกิจเมืองไทย ซึ่งผมคิดว่าถ้าเราทำดีๆ ก็จะเป็นประโยชน์ ในยุคที่เอไอได้เข้ามามีบทบาท เราคิดว่า จะทำยังไงให้อินชัวรันส์เข้าถึงทุกคนที่มีรายได้น้อย ไซส์กรมธรรม์ต่อไปคงจะต้องเล็กลงมา เทคโนโลยีจะต้องเข้ามาช่วยลดคอร์ส โดยจะต้องใช้ดิจิทัลเข้ามาจับ แต่ไม่ได้แปลว่าเราจะลดคน เพราะยังไงคนยังสำคัญกับองค์กร แต่จะทำให้คนไปทำงานที่สำคัญขึ้นไป และอีกมุมมองหนึ่ง ก็คือ ส่วนใหญ่เรามักจะมองว่าคนที่เป็นโรคมาก่อน ทำประกันยาก แต่สำหรับผม เชื่อว่าหากเรามีการนำเทคโนโลยีเข้ามาจับ ก็น่าจะเข้ามาช่วยทำตรงนี้ได้ ซึ่งผมก็จะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ส่วนเรื่องอื่นก็คิดว่า จะเข้ามาช่วยดูเรื่องการลงทุน ที่ผมทำเรื่องนี้มาตลอดอยู่แล้ว ซึ่งคงจะเป็นเรื่องที่ต่อไปผมจะต้องพยายามบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนให้ได้ผลตอบแทนมีประสิทธิภาพ กับภาวะความเสี่ยงปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยทำให้เราสามารถออกผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตไปตอบโจทย์ให้กับลูกค้า” อนึ่ง สำหรับประวัติดร.สุธี จบการศึกษา Phd.Applied Mathematical Finnance Imperial College มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศอังกฤษ โดยประสบการณ์การทำงานของดร.สุธีนับว่าโชกโชนทีเดียว ไม่ว่าจะเคยดำรงตำแหน่งในเมืองไทยประกันชีวิตตั้งแต่กรรมการ ,กรรมการบริหารความเสี่ยงองค์กร ,กรรมการบริหารด้านการลงทุน ST -MuangThai Insurance Co.Ltd(สาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว) และยังเป็นกรรมการบริษัทฟูเชีย เวนเจอร์ แคปปิทัล จำกัด ขณะเดียวกันยังเคยดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการบริหาร,ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการ ,กรรมการบริหารความเสี่ยง ,กรรมการลงทุน ,อนุกรรมการพิจารณาให้เช่าทรัพย์สิน บริษัทภัทรลิสซิ่ง จำกัด(มหาชน) ขณะเดียวกันยังมีประสบการณ์ดำรงตำแหน่งกรรมการ ,กรรมการด้านการลงทุน ,กรรมการบริหารความเสี่ยงองค์กร บริษัทไทยรีประกันชีวิต จำกัด(มหาชน)