วันที่ 28 มิถุนายน 2564 ศาตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม มอบหมายให้นายนิยม เติมศรีสุข รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินงานตาม 5 แผนงานการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ Covid-19 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ครั้งที่ 34/2564 โดยมีนายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ฯ นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นางสาวศิริประกาย วรปรีชา รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) ร่วมกับผู้บัญชาการเรือนจำในจังหวัดที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และห้องประชุม 1 ชั้น 2 กรมราชทัณฑ์ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม เผยภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน ยังควบคุมการระบาดได้ดี มีจำนวนผู้ป่วยรักษาหายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รักษาหายสะสม 32,454 ราย หรือ 90% ของผู้ป่วยสะสมทั้งหมด นายวัลลภ เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของกรมราชทัณฑ์ดีขึ้นอย่างชัดเจน และคาดว่าตัวเลขของผู้ติดเชื้อจะดีขึ้นในทุกจุด ทั้งผู้ติดเชื้อรายใหม่และในผู้ที่รักษาหาย โดยเฉพาะจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่ลดลง มีผู้ติดเชื้อที่รักษาหายเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้มีเรือนจำ/ทัณฑสถานหลายแห่งที่สามารถคืนพื้นที่เพื่อเป็นแดนปลอดเชื้อได้เกือบทั้งหมด และเหลือจำนวนผู้ติดเชื้อที่ยังคงรักษาซึ่งคาดว่าจะหายทั้งหมดและเข้าสู่กระบวนการลดสถานะจากเรือนจำสีแดงได้ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้ โดยสถิติในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (21-27 มิถุนายน 2564) มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งสิ้น 759 ราย ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 2,620 ราย หรือเกือบ 4.5 เท่า ขณะที่มีจำนวนผู้หายป่วยรวม 2,640 ราย มากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3.5 เท่า มีเรือนจำสีแดงไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 แห่งต่อเนื่องนานกว่า 10 วัน คือ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เรือนจำจังหวัดสงขลา และเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ส่วนเรือนจำ/ทัณฑสถานอื่นๆ ส่วนใหญ่มีแนวโน้มสถานการณ์ที่ดีขึ้น โดยปัจจุบัน มีผู้ติดเชื้อที่อยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ ทั้งสิ้น 3,264 ราย เป็นผู้ป่วยสีเขียว 2,831 ราย หรือ 86.75% สีเหลือง 409 ราย หรือ 12.5% และสีแดง 24 ราย หรือ 0.75% ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งสิ้นมีจำนวน 40 ราย หรือ 0.1% ของผู้ติดเชื้อสะสม นายวัลลภ กล่าวต่อว่า แม้สถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายลงในหลายพื้นที่ แต่ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด และระมัดระวังอย่างเข้มข้นในทุกจุดอยู่เสมอ โดยในเรือนจำ/ทัณฑสถานที่ยังไม่พบการแพร่ระบาด ให้เตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการป้องกันเชื้อเข้าสู่เรือนจำ/ทัณฑสถานชั้นใน ที่ต้องดำเนินการคัดกรองเชื้อแบบ 100% ทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่และครอบครัวที่ต้องขอความร่วมมือในการป้องกันตนเองอย่างเต็มที่ งดเว้นการเดินทางเข้าสถานที่เสี่ยง และการปฏิบัติตามมาตรฐานการป้องกันโรคในผู้ต้องขังเข้าใหม่อย่างเคร่งครัด รวมถึงระบบการรักษาความสะอาด และสุขอนามัยในเรือนจำ/ทัณฑสถานที่ต้องดำเนินการอย่างเป็นระบบ นายวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน กรมราชทัณฑ์ ได้รับวัคซีนมาแล้วทั้งสิ้น 66,877 โดส เป็นวัคซีนจากการจัดสรรของกรมควบคุมโรค 50,000 โดส ซึ่งได้ดำเนินการฉีดไปแล้ว 41 แห่ง และเป็นวัคซีนที่จัดสรรเพิ่มนอกแผน รวมถึงวัคซีนจากแหล่งอื่น 16,877 โดส โดยเป็นวัคซีนพระราชทานซิโนฟาร์ม 6,400 โดส เพื่อฉีดแก่เรือนจำกลางชลบุรี วัคซีนจากจังหวัดภูเก็ตเพื่อฉีดแก่เรือนจำจังหวัดภูเก็ต 4,857 โดส วัคซีนจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองคายเพื่อฉีดแก่เรือนจำจังหวัดหนองคาย 42 โดส รวมถึงการจัดสรรแยกจากกรมควบคุมโรคอีก 5,578 โดส เพื่อฉีดแก่เรือนจำจังหวัดสุโขทัย เรือนจำอำเภอสวรรคโลก และเรือนจำพิเศษมีนบุรี ซึ่งในส่วนของการดำเนินการฉีดวัคซีนต่อจากนี้ ยังอยู่ระหว่างประสานกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระจายวัคซีนไปยังเรือนจำสีขาวในเขตพื้นที่อื่น ๆ จนกว่าจะครอบคลุมทั่วประเทศต่อไป ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ประจำวันที่ 28 มิถุนายน 2564 ยังคงที่ ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม สถานะผู้ป่วยทั้งหมด 5 คน เป็นเยาวชน 3 คน และเจ้าหน้าที่ 2 คน จากผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 93 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 5.38 ขณะที่สถานพินิจฯ/ศูนย์ฝึกและอบรมฯ สีขาว มีสถานะรวม 36 แห่ง จากทั้งหมด 56 แห่ง โดย 20 แห่งอยู่ระหว่างรอตรวจและรอผล 8 แห่ง หมดสถานะสถานพินิจฯ/ศูนย์ฝึกและอบรมฯ สีขาว 7 แห่ง และติดเชื้อรวม 5 แห่ง ด้านสถิติการฉีดวัคซีนของเด็กและเยาวชน ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 106 คน จากทั้งหมด 4,400 คน หรือร้อยละ 0.05 ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 2,988 คน จากทั้งหมดจำนวน 4,415 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 67.68