เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2564 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคประชาธิปัตย์ถูกวิจารณ์ว่าเนื้อหาไม่ครอบคลุมถึงการแก้ไขระบบเลือกตั้ง 2 ใบ ว่า เป็นเรื่องของคณะกรรมาธิการ และ ส.ส.ที่จะต้องไปหาทางออกเอาเอง ปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาที่จะขัดรัฐธรรมนูญ แต่เป็นปัญหาที่อาจจะ โดยตรงขีดเส้นใต้ว่าอาจจะด้วย เพราะอาจจะไม่ก็ได้ แต่ที่สงสัยคืออาจจะขัดต่อข้อบังคับ ซึ่งการขัดต่อข้อบังคับ อาจจะมีวิธีการทำอย่างอื่นได้ เช่นข้อบังคับคือว่าจะต้องเสนอแก้ไขในหลักการอะไร เมื่อหลักการนั้นที่คุณถือ คือมาตรา 83 หรือ 91 ซึ่งไปกระทบกับมาตราอื่นเข้ามันอาจจะเกิดปัญหาที่บางคน อาจจะเห็นว่าไปกระทบกับมาตราอื่นไม่ได้ ก็คือไม่ได้เขียนไว้ แต่ในความเป็นจริงกระทบได้ ผู้สื่อข่าวถามว่า หมายความว่าแก้ไขเพียง 2 มาตรา แต่ในชั้นแปรญัตติไปกระทบมาตราอื่นๆ อีก 4 มาตราใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เชื่อว่าได้ เพราะเขาเคยทำมาแล้ว เมื่อถามว่า ส่วนตัวมองว่าร่างของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ยังไปได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ได้ และในที่สุดที่สำคัญกว่านั้นคือการทำกฎหมายลูก เพราะหลายอย่างไปเขียนรายละเอียดไว้ในกฎหมายลูก ซึ่งเป็นเทคนิคของการเขียนกฎหมาย เพราะมีคนอย่าง นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ , นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งคนเหล่านี้คงคิดออก เมื่อถามว่า เคยมีตัวอย่างหรือไม่ที่ขอแก้ไข 2 มาตรา แต่เอาเข้าจริงไปขยายอีก 4 มาตรา นายวิษณุ กล่าวว่า มี แต่ไม่กระทบอะไร เพราะไปเขียนในบทเฉพาะการ ซึ่งมีวิธีเขียน และเขาเหล่านั้นเก่งกว่าตน เขาก็มีวิธีเขียน ผู้สื่อข่าวถามว่า ในขณะเดียวกันก็อาจะแก้ไขไม่ได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า "คือได้นั้นได้ แต่อีกฝ่ายหนึ่งก็จะไม่ยอม คือเถียงว่าไม่ได้ แล้วดึงไปศาลรัฐธรรมนูญ ก็เลยจะเสียเวลา" เมื่อถามว่า ถือว่าเป็นความผิดพลาดของรัฐสภาหรือไม่เพราะแทนที่จะโหวตรับร่างพรรคการเมืองที่เสนอ 6 มาตรา แต่กลับไปรับร่าง 2 มาตรา นายวิษณุ กล่าวว่า "ไม่ใช่ ผมไม่ถือว่าเป็นความผิดพลาดอะไร แต่อาจจะเสียเวลา เพราะถ้าคิดจะเสียเวลา ก็เสียเวลาได้ทุกเรื่อง"