สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการไต้หวัน แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยระบุว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา จำนวน 10 ราย โดยเริ่มแรกเป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศเปรูเมื่อช่วงต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา จำนวน 2 ราย ก่อนแพร่เชื้อไปยังบุคคลใกล้ชิดอีกจำนวน 8 ราย ในเวลาต่อมา ส่งผลให้ทางการไต้หวันต้องมีคำสั่งให้ผู้ที่เดินทางมาจาก 7 ประเทศกลุ่มเสี่ยง ซึ่งรวมถึงอินเดีย อังกฤษ และเปรู ต้องกักตัวในสถานที่กักโรคของรัฐ หรือโรงแรมที่รัฐกำหนด เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด
รายงานข่าวแจ้งว่า ผลจากการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ดังกล่าว ทำให้ไต้หวันมีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 14,634 ราย มากเป็นอันดับ 143 ของโลก ส่วนผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีจำนวน 632 ราย และผู้ป่วยที่รักษาหายมีจำนวนสะสม 11,008 ราย
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า จากการพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ในไต้หวัน ซึ่งผู้ป่วยติดเชื้ออยู่ในเมืองฝางซาน เทศมณฑลผิงตง ทางตอนใต้ของประเทศ อันเป็นเมืองแหล่งเพาะปลูกมะม่วงสายพันธุ์ “อ้ายเหวิน” สายพันธุ์ดังของไต้หวัน ส่งผลให้บรรดาพ่อค้ายกเลิกคำสั่งซื้อมะม่วงสายพันธุ์ดังกล่าวจากเมืองฝางซาน เป็นเหตุให้เกษตรกรผู้เพาะปลูกได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จนถึงขั้นทำเรื่องร้องเรียนมายังทางการเทศมณฑลผิงตง
โดยข้อร้องเรียนของเกษตรกร ระบุว่า หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาในเมืองฝางซาน ทำให้ขายมะม่วงได้เพียง 50 เท่านั้น หลังพ่อค้าผลไม้ยกเลิกคำสั่งซื้อไปแล้วจำนวนมากกว่า 500 กล่อง นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อราคามะม่วงที่ตกลงจากเดิมถึงกิโลกรัมละ 16 ดอลลาร์ไต้หวัน (คิดเป็นเงินไทยราว 18 บาท) มาอยู่ที่กิโลกรัมละ 32 – 48 ดอลลาร์ไต้หวัน (คิดเป็นเงินไทยราว 36 – 55 บาท)
ทางด้าน สำนักงานการเกษตรเทศมณฑลผิงตง เปิดเผยว่า เตรียมที่จะดำเนินมาตรการให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่เกษตรกรปลูกมะม่วงที่ได้รับผลกระทบ