ผู้เสียหายกว่า100 คน แจ้งความกองปราบปราม หลังถูกนายหน้าหลอกขายรถหรูในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด อ้างเป็นรถตัดออกจากการประมูล แต่พบว่ารถทั้งหมดเช่าจากบริษัทเพื่อนำมาขายเสียหายกว่า 400 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.64 นางสาวนิยนุช กาญจนมงคล ซึ่งเป็น 1. ในผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้ซื้อรถหรู กล่าวว่าได้รับการติดต่อจากรุ่นพี่ที่สนิทกันมามากกว่า 10ปี มีรถยี่ห้อ bmw ที่ต้องการใช้มาขายในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดประมาณ 20เปอร์เซ็นต์ โดยผู้ที่นำมาขายอ้างว่าเป็นรถที่มาจากการตัดออกมาจากการประมูลของกรมบังคับคดี และบางคนถูกอ้างว่าเป็นรถจากสำนักงาน ป.ป.ส. หากต้องการรถต้องจ่ายเงินสดเต็มจำนวนเท่านั้นส่วนเอกสารประจำรถจะนำมาให้ภายหลัง 3-6 เดือน ผู้เสียหายกล่าวต่อว่า เมื่อช่วง 24มิถุนายนที่ผ่านมามีบุคคลอ้างตัวเป็นเจ้าของรถมาติดตามขอรถคืนที่บ้านจึงสอบถามและทราบว่าป็นรถที่ถูกปล่อยเช่ามาจากบริษัทแห่งหนึ่ง จึงถูกนำรถคืนไปส่วนเงินค่ารถที่จ่ายไปกับผู้ที่มาเสนอขายก็ยังไม่ได้รับคืน และขาดการติดต่อ จากนั้นเมื่อหาข้อมูลเพิ่มจึงพบว่ามีผู้เสียหายถูกหลอกในลักษณะเดียวกันจำนวนมากจึงรวมกลุ่มกันมาแจ้งความ ขณะที่นายกฤตนู เลี้ยงสกุล ซึ่งเป็น 1 ในผู้ประกอบการให้เช่ารถ ยอมรับว่า รู้จักกับนายโน่ (นามสมมุติ) ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นผู้ที่นำรถไปขายให้กับผู้อื่นและเคยทำธุรกิจดูแลแขก วีไอพี มาด้วยกันแต่ได้ปิดตัวไปเพราะไม่มีฐานลูกค้า จากนั้นนายโน่ ยังอ้างว่าจะทำธุรกิจต่อ โดยจะมีการมาติดต่อเช่ารถกับตัวเองเพื่อนำรถไปรับรองบุคคลสำคัญ ซึ่งบริษัทได้ปล่อยเช่ารถยนต์หรูให้นายโน่ไปหลายสิบคันแต่ไม่ทราบว่าที่จริงแล้วนายโน่จะนำรถไปขายต่อให้กับคนอื่นๆ ในช่วงแรกนายโน่จ่ายค่าเช่ารถตรงเวลาตลอดแต่เมื่อต้นเดือนมิถุนายนนายโน่ค้างค่าเช่ามากกว่า 4 ล้าน 5 แสนบาท ทำให้บริษัทต้องไปติดตามรถคืนจากผู้ที่ซื้อ และขณะนี้ก็ไม่สามารถติดต่อกับนายโน่ได้อีก อย่างไรก็ตามยังมีบริษัทให้บริการเช่ารถถูกนายโน่หลอกอย่างน้อย 15 บริษัท ส่วนผู้เสียหายที่ซื้อรถจากนายโน่ทั้งโดยตรงและผ่านคนกลางมีมากกว่า 160 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 400 ล้านบาทนอกจากนี้นายโน่ยังสร้างความน่าเชื่อถือด้วยการเช่าบ้านหรู และติดต่อให้ผู้เสียหายเข้าไปรับรถที่บ้านเหล่านั้น พร้อมกับให้สำเนาเอกสารบัตรประจำตัวประชาชน และทะเบียนบ้านของนายโน่ให้กับทุกคน ขณะที่ ผู้เสียหายรายหนึ่ง ที่ซื้อขายรถโดยตรง กับนายโน่ (นามสมมุติ) ผู้ก่อเหตุเล่าว่า นายโน่ นำเสนอขายรถหลายยี่ห้อ อ้างว่าเป็นรถที่สิ้นสุดคดีของ ป.ป.ส. แล้วนำมาขายต่อ จึงหลงเชื่อ เนื่องจากได้เจอตัว พูดคุยกัน และโปรไฟล์มีความน่าเชื่อถือ จึงหลงเชื่อซื้อขายรถ จำนวน 8-9 คัน ให้คนในครอบครัวได้ใช้ และต้องสูญเงินกว่า 18 ล้านบาท แต่ได้รถไม่ครบจำนวน โดยที่มาแจ้งความในวันนี้เพราะอยากได้เงินคืน เพราะตนเองลำบากต้องแบกภาระหนี้สิน จึงเข้าแจ้งความ ให้ติดตามตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดี