เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 25 มิ.ย. พ.ต.อ.ภัสพงษ์ บุตรไทย ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ พร้อม พ.ต.ท.ทรงวุฒิ เชื้อพลากิจ รอง ผกก.สส.สน.ราษฎร์บูรณะ นำกำลังฝ่ายสืบสวนเข้าจับกุมตัว นายนพรัตน์ หรือต่อ นามยา อายุ 26 ปี ชาว จ.เลย ผู้ต้องหาลักทรัพย์ในวัดหรือศาสนสถานในเวลากลางคืน โดยจับกุมตัวได้ในห้องเช่าไม่มีเลขที่ ซอยสุขสวัสดิ์ 18 แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กทม.
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.วันที่ 23 มิ.ย. นายนพรัตน์ ได้บุกเข้าไปในวัดสารอด ซอยสุขสวัสดิ์ 44 แขวงและเขตราษฎร์บูรณะ กทม.ก่อนใช้จอบของคนงานก่อสร้างซึ่งวางเอาไว้ภายในบริเวณ งัดตู้หยอดอาหารปลาได้เงินไปประมาณ 500 บาท จากนั้นใช้จอบอันเดียวกันงัดประตูบานเลื่อนศาลา 8 เพื่อนำตู้รับบริจาค จำนวน 2 ใบ ออกมาทำลายที่สวนหย่อมริมคลอง ได้เงินมาอีกประมาณ 500 บาท รวมก่อเหตุทั้ง 2 จุด ได้เงินราว 1,000 บาท ก่อนหลบหนีไป ภายหลังฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละเเวกรอบๆ วัด พบคนร้ายเดินเท้ากึ่งวิ่งหลบหนีไปที่บ้านเช่าซอยสุขสวัสดิ์ 18 ห่างออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวไว้ได้ก่อนนำมาสอบสวน ที่ สน.ราษฎร์บูรณะ
จากการสอบสวน นายนพรัตน์ ให้การว่า สมัยวัยรุ่นเคยถูกตำรวจที่ จ.เลย จับกุมคดีครอบครองปืนแก๊ป มาครั้งหนึ่งติดคุกอยู่ 8 เดือน จากนั้นก็เคยมาอยู่กรุงเทพฯ ทำงานช่างเชื่อมแต่ด้วยพิษโควิด-19 ทำให้ตกงาน และต้องกลับไปอยู่ที่บ้านเกิดระยะหนึ่ง เพิ่งย้อนลงมาเช่าห้องอยู่ที่กรุงเทพฯ ได้ไม่นานหวังจะหางานทำ แต่หาไม่ได้ เงินก็ไม่มี และรู้สึกหิวข้าวอย่างมาก จึงเดินเท้าออกจากห้องพัก ผ่านมาที่วัดสารอด เห็นสภาพว่า วัดกำลังบูรณะอาคาร และสถานที่ คิดเองว่าที่วัดน่าจะมีคนนำเงินมาบริจาคเงินจำนวนมาก จึงถือวิสาสะขโมยจอบพวกคนงานที่วางเอาไว้มาก่อเหตุงัดตู้หยอดอาหารปลา และตู้รับเงินบริจาคในศาลา นำเงินไปซื้อข้าวกิน และซื้อข้าวของเครื่องใช้ตุนไว้ในห้องจนหมดสิ้น
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายนพรัตน์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตามคำให้การ เมื่อพบกับ พระครูปลัดอดิศักดิ์ วชิรปัญโญ เจ้าอาวาสวัดสารอด นายนพรัตน์ ก็ถึงกับน้ำตาซึม และก้มลงกราบแทบเท้า ท่านเจ้าอาวาสเพื่อขอขมากรรมในทันที โดยวันนี้ พระครูปลัดอดิศักดิ์ ได้ถือโอกาสสอนพระธรรม และกล่าวคำอภัยทานให้ โดยไม่ถือโทษในฐานะที่เป็นผู้ดูแลเขตพุทธาวาส แต่ในทางกฎหมายก็ต้องให้ตำรวจดำเนินการต่อไป
สอบถาม พระครูปลัดอดิศักดิ์ กล่าวว่า ที่วัดแห่งนี้ถือเป็นฌาปนสถานอีกแห่งหนึ่งของกองทัพเรือ ที่ผ่านมาอยู่ระหว่างบูรณะปฏิสังขรณ์ในหลายๆ จุด จึงยังไม่ได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดแต่อย่างใด สิ่งที่ทางตำรวจจับกุมตัวคนร้ายได้รวดเร็ว เชื่อว่า นอกจากบารมีของหลวงพ่อรอด พระประธานในโบสถ์แล้ว ก็เป็นความทุ่มเทของชุดจับกุม ส่วนตัวอาตมาไม่ฝักใฝ่ เรื่องปาฏิหาริย์ แต่อย่างใด แต่ครั้งนี้เป็นอีกครั้งหนึ่งซึ่งกล่าวได้ว่า หลวงพ่อรอด ที่ชาวบ้านย่านนี้ศรัทธา ได้แสดงอิทธิฤทธิ์ให้คนทำผิดรู้ว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว อย่างรวดเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วัดสารอด นั้นไม่ปรากฏผู้ใดเป็นผู้สร้าง แต่ทางกรมศิลปากร เคยมาสำรวจเชื่อว่า วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อสมัยปลายกรุงศรีอยุธยา ไม่ต่ำกว่า 300 ปีแล้ว ส่วนพระประธานภายในโบสถ์ มีชื่อว่า "หลวงพ่อรอด" ตามประวัติที่มีการจารึกกันไว้ของชาวบ้านแต่โบราณ บันทึกว่า หลวงพ่อรอด ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิขนาดเท่าคนจริง เคยถูกคนร้ายมาโจรกรรม โดยอุ้มลงจากโบสถ์ ไปขึ้นเรือที่ท่าน้ำวัด แต่พอล่องเรือไปได้สักระยะปรากฏว่าเรือก็อับปางล่มลง หลวงพ่อรอด จมหายไปในน้ำ แต่กลับเกิดปาฏิหาริย์ในอีกไม่กี่วันถัดมา เนื่องจาก หลวงพ่อรอด ได้ย้อนกลับมาประดิษฐ์สถานอยู่ในพระอุโบสถเช่นเดิม สร้างความเลื่อมใสศรัทธาให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก.