เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 มิถุนายน นายแพทย์นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมา ชี้แจงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ 32 อำเภอ ของ จ.นครราชสีมา ว่า พบผู้ป่วยระลอกใหม่ 13 ราย ยอดสะสม 1,095 ราย รักษาหาย 945 ราย ยังรักษาตัวอยู่ 135 ราย และเสียชีวิต 15 ราย ทั้งนี้ผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งหมดมีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยและเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง อยู่ในพื้นที่ อ.เมือง 3 ราย อ.โชคชัย 3 ราย อ.ด่านขุนทด 2 ราย อ.ขามทะเลสอ 2 ราย อ.โนนสูง 1 ราย อ.สีคิ้ว 1 ราย และ อ.เสิงสาง 1 ราย รวมยอดสะสม 1,036 ราย รักษาหาย 923 ราย ยังรักษาอยู่ 99 ราย และเสียชีวิต 15 ราย
นายสานิตย์ ศรีทวี นายอำเภอเสิงสาง จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการค้นหาผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่มีไทม์ไลน์เกี่ยวข้องกับคลัสเตอร์บ้านหนองรังกา หมู่ที่ 10 ต.กุดโบสถ์ อ.เสิงสาง ล่าสุดพบผู้ป่วยเพิ่ม 1 ราย เป็นเด็กหญิงอายุ 6 ปี นักเรียนชั้น ป.1/2 โรงเรียนภูริตา ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนตั้งอยู่ในเขตเทศบาลตำบล (ทต.) เสิงสาง อ.เสิงสาง ภูมิลำเนา ต.สระตะเคียน อ.เสิงสาง ประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยซึ่งเป็นเพื่อนนักเรียนร่วมชั้นเรียนในขณะหยอกล้อและเล่นในสวนสนุกด้วยกัน ส่วนผลตรวจเชื้อนักเรียนจำนวน 22 คน ที่ใช้บริการรถรับส่งนักเรียนด้วยกัน ยังไม่มีการติดเชื้อแต่อย่างใด ทั้งนี้ทุกภาคส่วนได้ดำเนินมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด โดยนำให้กลุ่มเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำมาตรวจคัดกรองหาเชื้อหากไม่พบให้กักตัวสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน
ด้านนายแพทย์เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการภารกิจด้านอำนวยการ โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ไลพ์สดผ่านกลุ่มเพจ “ รพ.มหาราช นครราชสีมา” ว่า ได้รับรายงานจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับโควิดสายพันธ์ุอินเดีย แต่รอบนี้ยืนยันผลตรวจเชื้อ 2 รายผู้ป่วยรายที่ 962 หญิงอายุ 39 ปี และรายที่ 976 ชายอายุ 42 ปี ทั้ง 2 ราย เป็นสามีภรรยาภูมิลำเนา อ.ปากช่อง ประวัติกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงแคมป์ก่อสร้างย่านเอกมัย กรุงเทพมหานคร ตรวจพบเชื้อที่โรงพยาบาลปากช่องนานา เมื่อ 10 วันที่แล้ว กระบวนการต้องนำเชื้อไปเพาะ 7-10 วัน จึงสามารถระบุสายพันธ์ได้ การติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์ครอบครัวและคนใกล้ชิดรวมผู้ป่วยสะสม 10 รายและพบผู้ป่วยรายล่าสุด 9 วันที่ผ่านมา ยังไม่พ้นระยะการเฝ้าระวัง ขณะนี้ผู้ป่วยทั้งหมดได้นำมารักษาที่ รพ.มหาราช นครราชสีมา
“ขอแจ้งเตือน หลายคนอยากฉีดแต่ไม่มีวัคซีนแต่ก็ไม่มี ระมัดระวังการใช้ชีวิตด้วย ขณะนี้ภาครัฐได้นโยบายผ่อนปรน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องก็สำคัญ “ซิโนเเวค” วัคซีนหลักที่ไทยใช้อยู่มีผลวิจัยยืนยันไม่สามารถป้องกันสายพันธุ์อินเดียได้ แม้นฉีดครบ 2 เข็ม ขอให้ทั้งประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์ระมัดระวัง การ์ดอย่าตก” นายแพทย์เจษฎ์ กล่าวเตือน
นายสานิตย์ ศรีทวี นายอำเภอเสิงสาง จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการค้นหาผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่มีไทม์ไลน์เกี่ยวข้องกับคลัสเตอร์บ้านหนองรังกา หมู่ที่ 10 ต.กุดโบสถ์ อ.เสิงสาง ล่าสุดพบผู้ป่วยเพิ่ม 1 ราย เป็นเด็กหญิงอายุ 6 ปี นักเรียนชั้น ป.1/2 โรงเรียนภูริตา ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนตั้งอยู่ในเขตเทศบาลตำบล (ทต.) เสิงสาง อ.เสิงสาง ภูมิลำเนา ต.สระตะเคียน อ.เสิงสาง ประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยซึ่งเป็นเพื่อนนักเรียนร่วมชั้นเรียนในขณะหยอกล้อและเล่นในสวนสนุกด้วยกัน ส่วนผลตรวจเชื้อนักเรียนจำนวน 22 คน ที่ใช้บริการรถรับส่งนักเรียนด้วยกัน ยังไม่มีการติดเชื้อแต่อย่างใด ทั้งนี้ทุกภาคส่วนได้ดำเนินมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด โดยนำให้กลุ่มเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำมาตรวจคัดกรองหาเชื้อหากไม่พบให้กักตัวสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน
ด้านนายแพทย์เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการภารกิจด้านอำนวยการ โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ไลพ์สดผ่านกลุ่มเพจ “ รพ.มหาราช นครราชสีมา” ว่า ได้รับรายงานจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับโควิดสายพันธ์ุอินเดีย แต่รอบนี้ยืนยันผลตรวจเชื้อ 2 รายผู้ป่วยรายที่ 962 หญิงอายุ 39 ปี และรายที่ 976 ชายอายุ 42 ปี ทั้ง 2 ราย เป็นสามีภรรยาภูมิลำเนา อ.ปากช่อง ประวัติกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงแคมป์ก่อสร้างย่านเอกมัย กรุงเทพมหานคร ตรวจพบเชื้อที่โรงพยาบาลปากช่องนานา เมื่อ 10 วันที่แล้ว กระบวนการต้องนำเชื้อไปเพาะ 7-10 วัน จึงสามารถระบุสายพันธ์ได้ การติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์ครอบครัวและคนใกล้ชิดรวมผู้ป่วยสะสม 10 รายและพบผู้ป่วยรายล่าสุด 9 วันที่ผ่านมา ยังไม่พ้นระยะการเฝ้าระวัง ขณะนี้ผู้ป่วยทั้งหมดได้นำมารักษาที่ รพ.มหาราช นครราชสีมา
“ขอแจ้งเตือน หลายคนอยากฉีดแต่ไม่มีวัคซีนแต่ก็ไม่มี ระมัดระวังการใช้ชีวิตด้วย ขณะนี้ภาครัฐได้นโยบายผ่อนปรน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องก็สำคัญ “ซิโนเเวค” วัคซีนหลักที่ไทยใช้อยู่มีผลวิจัยยืนยันไม่สามารถป้องกันสายพันธุ์อินเดียได้ แม้นฉีดครบ 2 เข็ม ขอให้ทั้งประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์ระมัดระวัง การ์ดอย่าตก” นายแพทย์เจษฎ์ กล่าวเตือน