ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ ภัยแล้ง เร่งวิกฤตหนัก แม่น้ำบางขามแห้งขอด กระทบหนักทั้งน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค น้ำเพื่อการเกษตร และการทำประมง
เนื่องจาก สถานการณ์ภัยแล้ง ภายหลังเกิดวิกฤตแม่น้ำบางขาม ในอำเภอบ้านหมี่ ได้ลดระดับลงอย่างรวดเร็ว บางช่วงแห้งขอด จนสามารถเดินข้ามได้แล้ว เนื่องจากพื้นที่ภาคกลาง โดยเฉพาะที่จังหวัดลพบุรี มีปริมาณฝนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปกติ ถึง 37% จนส่งผลกระทบอย่างหนักต่อวิถีชีวิตชุมชน ของประชาชนสองฝั่งลุ่มน้ำบางขาม ทั้งน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค น้ำเพื่อการเกษตร และผู้ประกอบอาชีพทำการประมง เลี้ยงปลาในกระชัง
ซึ่งเรื่องนี้นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี นายสุรัช ธนูศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 10 พร้อมด้วย นายอนุสรณ์ ตันติวุฒิ รองผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 10 ได้ลงพื้นที่จะเร่งดำเนินการแก้ไขเป็นการด่วน จะสูบทอยน้ำจากคลองชลประทานชัยนาท-ป่าสัก ลงสู่แม่น้ำบางขามระยะทาง 10 กว่ากิโลเมตร พร้อมทั้งทำการขุดลอกเพื่อสร้างความลึก สำหรับทำแก้มลิง เป็นพื้นที่เก็บน้ำสำรอง บริเวณหน้าโรงสูบน้ำวัดห้วยแก้ว เพื่อผลิตน้ำประปา ในแม่น้ำบางขาม
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี กล่าวว่าจากนี้ไป คาดว่าประมาณ 2 สัปดาห์ ระดับน้ำในแม่น้ำบางขาม จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ โดยขอความร่วมมือเกษตรกรในเขตลุ่มน้ำบางขาม ที่ได้ทำการเพาะปลูกข้าวไปแล้ว ประมาณ 30,000 ไร่ อย่างพึ่งเร่งรีบในการสูบน้ำ โดยขอให้สูบน้ำเฉพาะตามรอบเวรที่ได้กำหนดไว้ เพื่อจัดสรรน้ำ ให้มีความเหมาะสม และร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัด ทั้งน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้ทำการเพาะปลูกไปแล้วไม่ให้เกิดความเสียหาย
ส่วนสถานการณ์น้ำ ด้านล่างของแม่น้ำบางขาม ซึ่งมีความกว้างแม่น้ำ ประมาณ 250 เมตร และเป็นพื้นที่แอ่งกระทะ เป็นจุดรวมน้ำ อยู่ห่างจากต้นน้ำบางขามประมาณ 16 กิโลเมตรเศษ ซึ่งยังพอมีน้ำเหลืออยู่ประมาณ ร้อยละ 10 ของความจุ ขณะนี้ น้ำที่สูบมาจากคลองชลประทาน ชัยนาท-ป่าสัก ยังเดินทางมาไม่ถึง ส่งผลให้ระดับน้ำที่ตื้นเขิน และเป็นน้ำนิ่งไม่ไหลผ่าน ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดตอนกลางวัน ได้ส่งผลกระทบต่ออาชีพผู้ทำการประมงหลายราย โดยเฉพาะผู้เลี้ยงปลากระชัง เนื่องจากน้ำน้อย อากาศร้อน ปลาไม่กินอาหาร และน็อกน้ำตายจนต้องตักออกทิ้งเป็นจำนวนมาก อย่างที่เห็น และจะเร่งแก้ไขโดยด่วน
////