นางรฎาวัญ วงศ์ศรีวงศ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานองค์กรภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย นำคณะแพทย์เวชกรรมไทยของโครงการแพทย์แผนไทยช่วยชาติ และประธานสภาครูแพทย์แผนไทย พร้อมคนไข้ที่ผลตรวจเชื้อเป็นลบ แถลงยืนยันประสิทธิภาพตำรับยาแผนไทย ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้คนกลุ่มเสี่ยงแข็งแรงปลอดภัย มีผลชี้วัดทางการแพทย์แผนปัจจุบันเช่น ผลเอ็กซเรย์ปอด และใบรับรองแพทย์ว่าหายป่วยแล้ว
นางสาวแอน(นามสมมุติ) ผู้ที่รับประทานตำรับยาแผนไทยแล้วหายป่วย กล่าวว่า ตนติดเชื้อโควิด19 จากน้าสาว เริ่มมีอาการไข้ ตั้งแต่ 16 เมษายน 2564 ได้พาน้าไปตรวจร่างกาย 18 เมษายน ผลออกมาติดเชื้อมีไข้สูง แพทย์จึงให้นอนรักษาที่โรงพยาบาล ส่วนตัวเองกลับไปตรวจวันที่ 19 เมษายน ผลออกมาติดเชื้อเช่นกัน แต่แพทย์ให้กลับไปรอเตียงอยู่ที่บ้าน มีไข้ทุกวันทานยาพาราฯพอหมดฤทธิ์ยาก็มีไข้อีก จนได้ติดต่อขอรับยาแผนไทยไปทาน ไข้ลดลงตั้งแต่วันแรก ตลอด6 วันไม่มีไข้เลย และเมื่อได้เตียง 27 เมษายนก็เข้าโรงพยาบาลมีการเอกซเรย์ปอด 2ครั้ง ปอดสะอาดเป็นปกติดี จึงได้ใบรับรองแพทย์ว่าอาการป่วยหายแล้วและแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ส่วนน้าสาวไม่ได้ทานยาไทย แต่รักษาตัวที่โรงพยาบาล ห้ามญาติเยี่ยม อาการทรุดต้องเข้าห้องICU ไตวายและเสียชีวิตเมื่อ 30 เมษายน ส่วนตัวเองไม่มีอาการใดๆร่างกายแข็งแรงดีมาจนถึงวันนี้ ก็ขอขอบพระคุณโครงการแพทย์แผนไทยช่วยชาติที่ช่วยให้ตัวเองรอดชีวิตมาได้อย่างปลอดภัยและยินดีช่วยประชาสัมพันธ์โครงการนี้ ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายตลอดไป
ด้าน นายตู่ (นามสมมุติ) ผู้ที่รับประทานยาแผนไทยทั้งครอบครัวแล้วหายป่วย กล่าวว่า มีคนในครอบครัวติดเชื้อโควิด19 จำนวน 2คน มีอาการไข้ เชื้อลงปอด มีพี่สาวเป็นแพทย์แผนไทยแนะนำให้ติดต่อโครงการแพทย์แผนไทยช่วยชาติ ระหว่างที่รอเตียง จึงได้รับประทานตำรับยาแผนไทย และนำติดตัวไปทานต่อที่โรงพยาบาลจนครบ 5วัน ร่างกายหายป่วยเป็นปกติ ทางโรงพยาบาลก็ไม่ได้ให้ยาอะไรทานเลยเพราะไม่มีไข้ ไม่มีอาการใดๆ ผลตรวจเชื้อเป็นลบทั้งสองคน แพทย์จึงอนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว ส่วนตัวเองและสมาชิกในครอบครัว4คนก็ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง และได้รับความอนุเคราะห์ตำรับยาแผนไทยมารับประทานทุกคน ผลตรวจเชื้อก็เป็นลบทุกคน จึงขอขอบคุณคุณรฎาวัญ และแพทย์แผนไทยในโครงการแพทย์แผนไทยช่วยชาติทุกท่านด้วยครับ
ขณะที่ แพทย์เวชกรรมไทย ณิชกรณ์วัน วัดพุทธญาณวงศ์ กล่าวว่า การใช้ยา 3 ตำรับในการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการ เหมือน covid 19 ตามคัมภีร์ตักกะศิลาได้ผลดีเป็นที่น่าพอใจ ผลเชิงประจักษ์ คนไข้ได้ส่งผลการตรวจมาเป็นลบ ทั้งผู้ป่วยที่รอเตียง และผู้ป่วยติดเชื้ออยู่โรงพยาบาล รวมทั้งผู้ที่มีความเสี่ยงสูงอยู่อาศัยร่วมกันกับผู้ติดเชื้อ หลังทานยาไปตรวจเชื้อและเอกซเรย์ปอด เป็นปกติทุกคน จึงเชื่อมั่นในตำรับยาห้าราก ยาจันทลีลา ยาประสะฟ้าทะลายโจร รักษาไข้ทุกชนิดที่เกิดจากไวรัสได้ ตัวเองก็ทานทั้งสามตำรับนี้ 1 ชุดทุกครั้งที่ออกไปพบปะผู้คนนอกบ้าน ถ้าไม่มีอาการอะไรก็หยุดทาน ซึ่งได้แนะนำกลุ่มเสี่ยงที่เครียดหวาดวิตกกลัวว่าจะติดเชื้อให้ทานสามตำรับดังกล่าวนี้เพราะมีแต่ผลดีต่อร่างกาย ไม่มีอันตรายเลย และควรปรึกษาแพทย์แผนไทยก่อนทานยาจะดีที่สุด
ส่วน แพทย์เวชกรรมไทยโสภณภัคจ์ วัดพุทธญาณวงศ์ ประธานสภาครูแพทย์แผนไทย กล่าวว่า การ แพทย์แผนไทยมีวิธีการรักษาโรคที่ดีไม่ด้อยกว่าการแพทย์แผนตะวันตก เมื่อปี 2555 ตนได้ถอดรหัสตำรับยาแผนไทยในคัมภีร์ตักกะศิลา พบว่ามีประสิทธิภาพสูงมาก เคยใช้รักษาโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรียได้ ทับลานคลินิกการแพทย์แผนไทยจึงได้ใช้รักษาคนป่วยไข้ทุกชนิดแล้วหายเป็นปกติมานานนับ 10 ปีแล้ว จึงขอให้ประชาชนชาวไทยสำนึกใน พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ห้า แห่งราชวงศ์จักรี ที่ทรงมีพระราชดำริ ให้รวบรวมคัมภีร์ตำรับยาแผนไทยทั้งหมดแล้วแต่งเป็นตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์จึงได้ใช้เป็นตำราเรียนการแพทย์แผนไทยตลอดมาจนถึงปัจจุบันนี้
"เราได้ส่งตำรับยาแผนไทยคือ ยาห้าราก ยาจันทลีลา ยาประสะฟ้าทลายโจร ยาสัตตะโกฐ ให้ประชาชนที่มีอาการเหมือนโรคไข้พิษ ไข้เหนือ ไข้กาฬ ตามคัมภีร์ตักกะศิลา ได้รับประทานฟรีไม่คิดค่าใช้จ่าย มาตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน 2564 มีประชาชนติดต่อขอคำปรึกษาทางสายด่วน 086-1034222 ,061-8918559 จำนวนกว่า 1,000 ราย มีขอรับยาแผนไทยไปแล้วเกือบ 200 ราย ถ้าคิดเป็นค่ารักษาในโรงพยาบาลรัฐและโรงพยาบาลเอกชนเฉลี่ยสูงสุดคนละ 900,000 บาท จึงนับได้ว่าโครงการแพทย์แผนไทยช่วยชาติเราสามารถช่วยเหลือประชาชนไปแล้วคิดเป็นเงินค่ารักษาประมาณ 180,000,000 บาท จึงขอขอบพระคุณโรงงานยาแผนไทย และประชาชนผู้มีจิตเมตตาที่ได้บริจาคทั้งเงินทุนและที่บริจาค