เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 24 มิ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่อาคารพาณิชย์ให้เช่า ริมถนนเพชรเกษม ม.8 บ้านจีน ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ทางเจ้าหน้าที่อำเภอตะกั่วทุ่ง อบต.กระโสม สาธารณสุขอำเภอตะกั่วทุ่ง ได้ติดประกาศห้ามคนเข้า-ออก เป็นภาษาไทยและภาษาเมียนมา พร้อมด้วยหนังสือสั่งกักตัวชาวเมียนมา5รายที่เป็นคนเผยแพร่ศาสนาคริสต์ ซึ่งมาเช่าบ้านเผยแพร่ศาสนาให้แรงงานเมียนมาในพื้นที่มานานแล้ว และก่อนหน้านี้มีชาวเมียนมาในกลุ่มนี้คนหนึ่งได้เดินทางไปทำธุระกับศูนย์เผยแพร่ศาสนาในกรุงเทพฯและได้เดินทางกลับมาเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2564 ซึ่งได้รายงานตัวต่อพื้นที่แล้ว จากนั้นในวันที่22 มิถุนายน ก็ได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขว่า ผู้ที่เดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯรายนี้ได้รถโดยสารประจำทางมาเกิดเครื่องยนต์เสียในเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทางบริษัทรถได้จัดรถตู้มาส่งผู้โดยสารที่เหลือในจังหวัดพังงาและจังหวัดภูเก็ต และมีผู้โดยสารที่ลงที่จังหวัดภูเก็ตป่วยติดเชื้อโควิด-19 ทางเจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปตรวจหาเชื้อพร้อมกับคนที่อาศัยร่วมกันในบ้านได้ตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลตะกั่วทุ่ง ผลตรวจออกมาเป็นลบทุกคน จากนั้นก็ได้วางแผนพาเข้ากักตัวใน Local Qualantine ของตำบลกระโสม และเมื่อทางพิจารณาความเหมาะสมแล้วทางอำเภอตะกั่วทุ่งได้พิจารณาให้กักตัวแบบ Home Qualantine ในบ้านเช่าของพวกเขาเองเป็นเวลา14วัน
นายสนิท เปรมจิตร ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม. ต.กระโสม เปิดเผยว่า หลังจากทางเจ้าพนักงานควบคุมโรคตำบลกระโสมไดออกหนังสือกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงรวม5 คนแล้ว ก็ได้มาจัดทำพื้นที่ควบคุมในอาคารพาณิชย์ที่พวกเขาเช่าอยู่ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยเจ้าหน้าที่ได้ติดประกาศตั้งเต้นท์ควบคุมการเข้า-ออก จัดเวรยามประกอบด้วยผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อปพร. และ อสม.ดูแลตลอด 24ชั่วโมง ทุกวันจะมีการวัดอุณหภูมิ3เวลา ส่วนอาหารการกินทาง อบต.กระโสมจะส่งให้วันละ3มื้อ และขอประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่าอย่าไปเชื่อตามข่าวลือที่ว่าชาวเมียนมาที่บ้านจีนติดโควิด-19 พวกเขาเป็นแค่กลุ่มเสี่ยงสูงเท่านั้น ผลตรวจโควิด-19รอบแรกก็ไม่พบเชื้อทุกราย ซึ่งข่าวลือนี้ก็ได้สร้างผลกระทบต่อเด็กนักเรียนในพื้นที่ที่ต้องเดินทางไปโรงเรียนในตัวเมืองแล้ว เพราะมีบางโรงเรียนได้สั่งห้ามไม่ให้เด็กไปโรงเรียนกันแล้ว