“ปิยบุตร-ไอติม” เผยประชาชนลงชื่อแก้รัฐธรรมนูญรื้อระบอบประยุทธ์ทะลุ 70,000 ชื่อ พร้อมยื่นรัฐสภาสัปดาห์หน้า ซัดรัฐสภา ไฮแจ็คการแก้ไขรัฐธรรมนูญของประชาชน แตะแค่ระบบเลือกตั้ง หวังสืบทอดอำนาจภาค 2
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 24 มิถุนายน ที่หอศิลปวัฒนธรรม กรุงเทพฯ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า ในฐานะแกนนำกลุ่ม Re-Solution ให้สัมภาษณ์กรณีความคืบหน้าการเข้าชื่อประชาชนเพื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราของกลุ่ม Re-Solution ในแคมเปญ “ขอคนละชื่อรื้อระบอบประยุทธ์”
โดยนายพริษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับรายชื่อมากกว่า 70,000 ชื่อ เกินกว่าขั้นต่ำ 50,000 รายชื่อที่จำเป็นต่อการยื่นต่อรัฐสภาตามที่กฎหมายกำหนด เราเชื่อว่าตัวเลขจะสูงกว่านี้ เพราะยังมีรายชื่อที่ค้างในระบบออนไลน์อยู่จำนวนมาก รวมถึงรายชื่อจากอาสาสมัครในต่างจังหวัด ดังนั้น กลุ่มจะรณรงค์ต่อไป ใครที่เห็นด้วยยังสามารถส่งชื่อเข้ามาได้ ทุกเสียงมีความหมาย และเราจะรวบรวมเอกสารทั้งหมดพร้อมยื่นต่อรัฐสภาในสัปดาห์หน้า
.
นายพริษฐ์ กล่าวว่า ปัจจุบันมี 2 ปรากฎการณ์เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่กำลังเกิดขึ้น ปรากฎการณ์แรกคือประตูบานหนึ่งกำลังถูกปิดลงโดยรัฐสภา ที่กำลังพิจารณารัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมรายมาตราอยู่ เพราะดูแล้วจะไม่มีร่างรัฐธรรมนูญฉบับใดเลยที่เป็นการสกัดกั้นกลไกการสืบทอดอำนาจของระบอบประยุทธ์ ที่จะสามารถผ่านรัฐสภาไปได้ แม้แต่ข้อเรียกร้องที่พื้นฐานที่สุดอย่างการปิดสวิตช์ ส.ว. ซึ่งตนรู้สึกเสียดายที่หลายพรรคการเมืองที่ไม่พร้อมจะยืนยันหลักการพื้นฐานว่าประชาชนควรจะมี 1 สิทธิ 1 เสียงเท่าเทียมกันในการกำหนดว่าใครจะเป็นนายกฯ
.
นายพริษฐ์กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขระบบเลือกตั้ง เรามองว่าเป็นประเด็นรายละเอียด ไม่ได้เป็นหัวใจสำคัญของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ถูกใช้เป็นกลไกสืบทอดอำนาจ แต่เราไม่ได้หมายความระบบเลือกตั้งปัจจุบันนั้นสมบูรณ์แบบ เพราะก็ยังมีปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไข แต่ผู้ที่พูดว่าต้องการเปลี่ยนจากระบบบัตร 1 ใบเป็น 2 ใบ เป็นการพูดที่ไม่ครบถ้วน เพราะระบบเลือกตั้งบัตร 2 ใบก็มีหลายรูปแบบที่สมควรถูกถกเถียงถึงข้อดีข้อเสียโดย สสร.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งหมด และปัญหาต้นตอของการเลือกตั้งในปี 2562 คือการทำงานของ กกต. ที่มีการบิดสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่พลิกผลจากหน้ามือเป็นหลังมือ ดังนั้น จึงสำคัญกว่าที่ต้องแก้ที่ที่มาขององค์กรอิสระที่ยังมีความยึดโยงกับ ส.ว. ที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช. อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเราเห็นความร่วมมือของประชาชนที่พยายามจะเปิดประตูอีกบาน เพื่อทำให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราของเราเข้าสู่สภาได้ ซึ่งเรามุ่งเน้นที่สกัดกั้นกลไกสืบทอดอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิก ส.ว. การปรับที่มาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและกรรมการองค์กรอิสระ หรือการยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และการล้มล้างผลพวงรัฐประหาร อย่างไรก็ตาม การแก้ไขรายมาตราของเราเป็นเพียงขั้นตอนแรก เพื่อไปสู่เป้าหมายต่อไปคือการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ
.
“อยากเชิญทุกคนมาร่วมลงชื่อ ยิ่งได้รายชื่อมากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นพลังที่สำคัญในการเสนอต่อรัฐสภา ส่วนใครที่ไม่เห็นด้วยกับร่างของเรา ผมอยากให้ท่านสบายใจได้ว่าพวกเราไม่ได้มองข้ามเสียงของพวกท่าน เพราะหากร่างของเราผ่านการพิจารณาของรัฐสภา จะต้องมีการทำประชามติทั่วประเทศเพื่อให้ประชาชนรับรองก่อนจะถูกบังคับใช้ และอยากให้เห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญของเรา ไม่ได้เป็นการแก้ไขเพื่อให้ประโยชน์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เพื่อจะสร้างระบอบการปกครองที่เป็นประชาธิปไตย ทุกฝ่ายแข่งขันกันได้บนกติกาที่เป็นธรรม” นายพริษฐ์กล่าว
.
นายปิยบุตรกล่าวว่า กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญที่กำลังทำกันอยู่ในรัฐสภา ตั้งแต่กลางปีที่แล้วจนถึงตอนนี้ สรุปได้เป็น 2 ข้อ หนึ่งคือการฉกฉวยแย่งชิงเอาอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญของประชาชนไปปู้ยี่ปู้ยำ เพื่อจะแก้เฉพาะเรื่องที่พวกเขาได้ประโยชน์ สอง นี่คือขบวนไฮแจ็คการแก้ไขรัฐธรรมนูญของประชาชน ที่ประชาชนฝันใหญ่อยากทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับโดยประชาชนเอง แต่สุดท้ายถูกลดทอนเป็นการแก้รายมาตรา และก็ไม่ได้แก้ในเรื่องสำคัญ แก้เฉพาะระบบเลือกตั้ง เราจึงต้องรณรงค์อย่างต่อเนื่อง เพื่อจะเห็นรัฐธรรมนูญใหม่ที่มาโดยประชาชน แก้ไขได้ทุกหมวดทุกมาตรา แต่ตอนนี้ประตูนี้มีอุปสรรคขัดขวาง เลยยังทำไม่ได้ ในขณะที่เขากำลังแก้ไขรายมาตรา เราจึงมาต่อสู้กับเขาด้วย เพราะเราเล็งเห็นว่าที่เขาทำในรัฐสภาตอนนี้ ไม่ได้แก้ที่ต้นตอปัญหา แต่แก้ระบบเลือกตั้งเพื่อปูทางสู่การสืบทอดอำนาจภาค 2
.
“การรณรงค์ครั้งนี้เป็นนิมิตรหมายที่ดีมาก เราเห็นพลังของประชาชนจริงๆ เรามายืนยันว่าประชาชนเป็นผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญตัวจริง อย่าปล่อยให้สมาชิกรัฐสภาบางกลุ่มบางพวกกระทำย่ำยีปู้ยี่ปู้ยำเอาอำนาจของประชาชนที่ให้สภาไปนั้น ไปใช้เพื่อประโยชน์ของตัวเอง วันนี้เราได้ 70,000 ชื่อ เมื่อรวมกับรายชื่อจากทั่วประเทศที่และยังรอจัดการเอกสารอยู่น่าจะได้มากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม คงเสนอไม่ทันการพิจารณารอบนี้ แต่เมื่อทำตามกระบวนการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว คาดว่าร่างจะได้รับการบรรจุญัตติในปีนี้ต่อไป” นายปิยบุตรกล่าว