คืบหน้าเรือและชาวประมงสูญหายกลางทะเล ล่าสุดพบใกล้น่านน้ำเวียดนามนำเข้าฝั่งพรุ่งนี้

วันที่ 24 มิถุนายนว่า ตามที่ได้มีเรือประมงชื่อ เรือโชคสกุลวดี 26 เป็นเรือปั่นไฟ ขนาด11ตันครอส์ เรือยาว 33.2 เมตร กว้าง3.15 เมตร ได้สูญหายระหว่าง วันที่ 18-22 มิถุนายน 2564 ในเรือมีนายสมาน นิลบุตร มีหน้าที่ควบคุมเรือ (ไต๋เรือ) ไม่สามารถติดต่อเรือได้ ประกอบกับมีเรือลำอื่นได้เห็นเรือลอยลำกลางทะเลโดยไม่มีทิศทาง และเห็นคนนอนอยู่ในเรือ ดังนั้นจึงเกรงว่าจะได้รับอันตรายถึงชีวิต นางวรรณดี อินทรรัตน์ อายุ63ปี อยู่บ้านเลขที่ 158/51 ม.11 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี เป็นเจ้าของเรือประมงโชคสกุลวดี26 ได้เดินทางมาแจ้งความ ที่สภ.เมืองปัตตานีเพื่อเป็นหลักฐาน ขณะเดียวกัน เจ้าของเรือพร้อมครอบครัวของผู้สูญหายได้เดินทางไปพบกับทางสมาคมประมงปัตตานี เพื่อขอความช่วยเหลือมี นายกฤษณ์พสุ เจริญผจก.สมาคมฯ เป็นผู้รับเรื่อง และได้ วิทยุประสานกับเรือประมงที่หาปลากลางทะเล พบว่าเรือลอยลำใกล้กับประเทศเวียดนาม จึงได้ประสาน ศรชล.ภาค2 (กองทัพเรือภาค2) แต่ก็ยังไม่มีการสั่งการให้เรือตรวจการออกทำการเหลือ จึงร้องทุกข์ศูนย์ดำรงธรรม และศูนย์ดำรงธรรม และศอ.บต.ผซึ่ง.รับ และแจ้งว่าจะประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้เจ้าของเรือ และครอบครัวไต๋เรือเป็นทุกข์ใจและเครียดและโอดครวญร้องไห้ เพราะนี่ล่วงเลยเข้าสู่วันที่ 4 แล้ว ไม่ทราบชะตากรรม และไม่มีหน่วยงานไหนที่สามารถออกค้นหาได้เลย จากนั้นประสานสื่อมวลชนในพื้นที่เพื่อนำเสนอข่าวเพื่อกระตุ้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุด วันนี้ 24 มิย. 2564 เมื่อเวลา 16.30 น.ที่สำนักงาน ศรชลปัตตานี นาวาเอกบุญมี แก้วสง่า รอง ผอ.ศรชล.ปัตตานีพร้อมด้วย ผจก.สมาคมประมงปัตตานี ด่านตรวจประมงปัตตานี(ปีโป้) และเจ้าของเรือประมงที่สูญหายและครอบครัวผู้สูญหาย ได้เรียกทำความเข้าใจกับเรื่องดังกล่าวว่า ทาง ศรชล ภาค2 หลังรับแจ้งไม่ได้นิ่งนอนใจได้นำเรือหลวงศิริรัตน์เรือหลวงสัตหีบ เรือตรวจการ เรือตรวจการ ต.991 และ ต.98 พร้อมทั้งเครื่องบินตรวจการ และเฮลิคอปเตอร์ลำเลียง สลับกันออกค้นหา ตามเส้นเขตแดนไทยเวียดนาม รวมทั้งตามทิศทางลมในทะเล ตั้งแต่วันที่ 21-25 มิถุนายน ยังไม่พบเรือดังกล่าว และยังไม่ทราบชะตากรรมของเรือและไต้เรือ แต่ก็ยังค้นหาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งวิทยุประสานกับเรือประมงที่หาปลาในทะเลช่วยอีกทางหนึ่งด้วยแต่ยังไม่พบ ขณะเดียวกันจะได้ประสานผู้เกี่ยวข้องทางกระทรวงต่างประเทศ ให้ช่วยประสานทางประเทศเวียดนามและกัมพูชาในการตรวจสอบเรือดั่งกล่าวว่าเข้าไปในน่านน้ำหรือไม่ แต่ก็จะค้นหาต่อไป ทางด้าน นางวันดี นิลบุตร อายุ50ปี พี่สาวคนโตของผู้สูญหายเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวพร้อมคราบน้ำตาว่า ดีใจมากและรู้สึกสบายใจที่ทราบข่าวว่าทางราชการได้ให้การช่วยเหลือ เห็นว่าประชาชนยังมีคุณค่าอยู่ ถึงจะพบหรือไม่พบแต่ก็มีความหวัง ในวันเกิดเหตุหาใครช่วยไม่ได้เลยทิ้งขว้างเรา ไม่มีที่พึ่ง ในเมื่อทางราชการได้ช่วยเหลือตอนนี้ไม่ทราบชะตากรรมแต่ก็ภาวนาให้เจอรอดปฏิหาริย์ ผู้สื่อข่าวปัตตานีล่าสุดเมื่อเวล า17.30 น.วันที่24 มิถุนายน มีรายงานจาก กองทัพเรือภาคที่ 2 แจ้งว่าพบเรือที่สูญหายแล้ว กำลังนำเรือตรวจการ ไปทึ่จุดพบเรือใใกล้กับน่านน้ำเวียตนาม และจะรีบนำเรือออกไปให้การช่วยเหลือและนำกลับมาที่ท่าเรือปัตตานี น่าจะถึงวันพรุ่งนี้(25มิ.ย.)จะแถลงข่าวให้ทราบต่อไป