"อดีตทหารเกณฑ์"คลั่ง! สวมเครื่องแบบทหารก่อเหตุยิงพนักงานร้านสะดวกซื้อเสียชีวิต ก่อนควบรถกระบะบุกกราดยิงโรงพยาบายสนาม อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ส่งผลให้ผู้ป่วยโควิดตายอีก 1 ราย "ผบ.ตร."สั่ง"หน่วยหนุมาน"ไล่ล่าสุดท้ายยอมมอบตัว เผยมีปัญหาทะเลาะกับคนในค่ายทหาร และกำลังจะไปก่อเหตุยิงเหยื่อรายที่ 3 แต่มาถูกจับกุมก่อน เมื่อเวลา 03.20 น. วันที่ 24 มิ.ย.64 พ.ต.ต.สวัสดิ์ คงแก้ว สารวัตรสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จังหวัดปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกยิงผู้ป่วยโควิดเสียชีวิตภายในโรงพยาบาลสนาม สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี ถนนพหลโยธินขาเข้า ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อภิชาติ ทองแพ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุเป็นอาคารของสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนีสูง 5 ชั้น โดยที่ชั้นที่ 1 ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ เป็นหอผู้ป่วยโควิดส่วนขยาย กรมการแพทย์ (โรงพยาบาลสนาม) เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดรักษาผู้ป่วยโควิดโดยที่บริเวณหน้าห้องน้ำ พบผู้เสียชีวิตชาย 1 ราย ทราบชื่อคือ นายสุขสันต์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี เป็นผู้ป่วยโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาอาการป่วย ถูกอาวุธปืนยิงเข้าตามร่างกายทำให้เสียชีวิต ขณะที่ บริเวณประตูทางเข้าด้านหน้า ซึ่งเป็นประตูบานเลื่อนอัตโนมัติห้องรวมผู้ป่วย และหน้าประตูทางเข้า ถูกยิงจนกระจกแตกเกลื่อนพื้น พร้อมพบปลอกกระสุนปืนและหัวกระสุนปืนตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งภายในเตียงนอนของรพ.สนาม ยังมีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาโควิด-19 อยู่ในอาการตื่นตกใจ นอกจากนี้ ยังพบกระสุนปืนตกอยู่อีกจำนวน 1 นัด ห่างกัน 40 เมตร บริเวณอาคารสถาบันบำบัดรักษา และฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนีอีกอาคารหนึ่ง ซึ่งอยู่ด้านทิศเหนือบริเวณจุดคัดกรอง มีร่องรอยการถูกยิงจนได้รับความเสียหาย ขณะที่กล้องวงจรปิดบริเวณทางเข้าออกสามารถบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้เป็นชายอายุประมาณ 40-50 ปี สวมเสื้อลายพรางทหาร กางเกงสีดำ สวมหมวกเบเรต์สีแดง มือขวาถือปืน ไม่สวมหน้ากากอนามัยเข้ามาก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงอย่างอุกอาจ ด้าน พ.ต.อ.อภิชาติ ทองแพ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นตำรวจยังไม่สามารถเข้าไปในที่เกิดเหตุได้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ควบคุม ด้านในมีผู้ป่วยรักษาโรคโควิด-19 อยู่ โดยจากการสันนิษฐาน คาดว่าคนร้ายน่าจะไม่รู้จักกับคนตายมาก่อน เพราะผู้ก่อเหตุมีการใช้อาวุธปืนยิงหลายจุด โดยผู้ตายนั้นคาดว่าเพิ่งเดินออกจากห้องน้ำมา และเจอกับคนร้ายจึงถูกยิงเสียชีวิต ประตูทางเข้าของอาคารและทางเข้าห้องผู้ป่วยคนร้ายก็ยิงจนได้รับความเสียหาย เบื้องต้นพบว่า รถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นรถกระบะยี่ห้อ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 ฒข 6233 มุ่งหน้าไปทางภาคใต้ ชุดสืบสวนเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางและใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะคนร้ายมีอาวุธปืนและขณะก่อเหตุไม่สวมหน้ากากอนามัย ขณะที่ พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เผยจากการตรวจสอบข้อมูล หลังคนร้ายสวมชุดลายพราง ก่อเหตุกราดยิงภายในโรงพยาบาลสนาม จ.ปทุมธานี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 นาย พบว่าปัจจุบันผู้ก่อเหตุไม่ใช่กำลังพลของกองทัพบก แต่เคยเป็นทหารเกณฑ์ที่ปลดประจำการไปแล้วตั้งแต่ปี 2562 ส่วน พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ยืนยันทราบตัวผู้ที่ก่อเหตุที่บุกยิงผู้ป่วยโควิดเสียชีวิต 1 คน ภายในโรงพยาบาลสนามฯ รักษาผู้ป่วยโควิด-19 พื้นที่จังหวัดปทุมธานี เบื้องต้นจะเชิญตัวพ่อและแม่ของผู้ที่ก่อเหตุมาให้ข้อมูล แต่จากการสอบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุมีอาการทางสติ มักจะคลุ้มคลั่ง และทราบข้อมูลว่าเพิ่งปลดประจำการจากทหารเกณฑ์มา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่คนร้านจะมาก่อเหตุภายในโรงพยาบาลสนาม สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี ได้ก่อเหตุยิง นายรัฐวิทย์ สันติคุปตพง อายุ 32 ปี พนักงานประจำร้านสะดวกซื้อ 7/11 ปากซอยลาดพร้าว25 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. มีบาดแผลถูกยิงบริเวณด้านหลังทะลุหน้าอกจำนวน 3 นัด นอกจากนี้บริเวณโดยรอบเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนขนาด.38 ตกอยู่หลายปลอก โดยพยานระบุว่า ผู้ก่อเหตุไม่พอใจและมีปากเสียงกับพนักงานร้านสะดวกซื้อ เรื่องไม่ยอมชำระค่าสินค้าที่เสียหาย จึงยิงพนักงานเสียชีวิต และหลบหนีไปด้วยรถยนต์กระบะ 4 ประตู สีขาว โดยพยานระบุ ผู้ก่อเหตุมีลักษณะรูปร่างท้วม สูง สวมเสื้อคลุมสีเทา กางเกงขายาวสีเข้ม เปิดเผยใบหน้าชัดเจน ใช้เวลาก่อเหตุไม่ถึง 1 นาที ต่อมา พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. ,พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ ผกก.สสน.บก.ป. ,พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5 บก.ป. สนธิกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยหนุมานกองปราบปราม และชุดสืบสวน กก.5.บก.ป. นำกำลังเข้าปิดล้อมบ้านผู้ต้องหาทราบชื่อ นายกวิน แสงนิลกุล อายุ 23 ปี หมู่ที่ 3 ต.หินช้าง จ.ระนอง ซึ่งพบรถจอดอยู่ แต่ยังไม่เห็นตัวคนร้าย จากการสอบสวนญาติของคนร้าย ทราบว่าผู้ก่อเหตุมีอาการทางสมอง และมักจะคลุ้มคลั่ง โดยเพิ่งปลดประจำการจากทหารเกณฑ์ จากการตรวจสอบพบว่าภายในบ้านมีผู้ป่วยติดเตียงเป็นคนแก่ 2-3 คน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องวางแผนอย่างรอบคอบ ขณะที่คนร้ายที่มีอาการมึนเมา คุยโทรศัพท์กับสื่อมวลชน และเล่นเฟซบุ๊กหน้าตาเฉย กระทั่ง เวลา 11.10 น. มีเสียงปืนดังขึ้นจากบ้านที่คนร้ายอยู่ 2-3 นัด โดยคนร้ายเปิดใจกับเนชั่นออนไลน์ว่า "ผมยังมีชีวิตอยู่ และยังไม่โดนยิงหัวตายสักทีหนึ่ง แต่อยากโดนยิงหัวตายให้จบๆ ตอนนี้อยากได้น้ำเปล่า และเบียร์ ตำรวจไม่พูดคุยอะไรกับผมเลย สงสัยส่งหน่วยรบพิเศษมาแล้ว ต้องการเรียกร้องความยุติธรรมในสังคม และต้องการให้ผู้บังคับบัญชาอัดคลิปก้มกราบเท้าขอโทษ เพราะเขาเคยทำร้ายผม" ต่อมา เมื่อเวลา 12.20 น. นายกวิลได้เดินออกมาจากบ้านหลังดังกล่าวเพื่อมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมเปิเผยว่า มีปัญหาทะเลาะกับคนในค่ายทหาร ต้องการให้มาก้มกราบขอโทษ โดยกำลังจะขับรถไปก่อเหตุยิงคนที่ 3 ระหว่างทางขับผ่านด่านตำรวจมาถึง 5 ด่าน แต่ไม่มีการตรวจค้นจับกุม จนขับมาถึงบ้านย่า จึงถูกตำรวจปิดล้อมและยอมมอบตัว