"ศบค."แถลงพบผู้ติดเชิ้อโควิด-19 รายใหม่ 4,108 ราย เสียชีวิต 31 ศพ ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 232,647 ราย รักษาหายอีก1,578 ราย "รมว.สธ."พร้อมรับฟังอาจารย์หมอ จี้ล็อกดาวน์กทม. ลั่นไม่ยอมให้ระบบสาธารณสุขล่ม เล็งเจรจาขอต่อเวลาใช้พื้นที่เมืองทองเปิดรพ.บุษราคัม รับผู้ป่วยกทม. หมุนเวียนบุคลากรจากพื้นที่พบติดเชื้อต่ำเข้าช่วย พร้อมเล็งพื้นที่ใหม่เปิดรพ.สนามเพิ่ม
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 24 มิ.ย.64 แพทย์หญิง อภิสมัย ศรีรังสรรค์ รองโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงข่าวจากทำเนียบรัฐบาล รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ ในประเทศไทยจำนวน 4,108 ราย มีรายละเอียดดังนี้ ติดเชื้อในประเทศ 3,865 ราย ติดเชื้อในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 229 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 14 ราย รักษาหายเพิ่มขึ้น 1,578 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัว 39,517 ราย แบ่งเป็นในโรงพยาบาล 13,320 ราย และโรงพยาบาลสนาม 26,197 ราย ในจำนวนนี้มีอาการหนัก 1,564 ราย ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 445 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 31 ศพ ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 1,775 ศพ (ตั้งแต่ปี 2563) ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 232,647 ราย
ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีมีการเสนอล็อกดาวน์กรุงเทพมหานคร เพราะมีการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างหนัก เพื่อให้ระบบการแพทย์และสาธารณสุขเดินหน้าต่อไปได้ ว่า รับฟังทุกอย่างและประเมิน เรามีคณะทำงาน มีคณะกรรมการ และยังมีศบค. แต่ว่าความเห็นที่มีคุณค่าจากอาจาย์แพทย์ทั้งหลาย เราต้องฟัง ไม่ฟังไม่ได้ ฟังแล้วก็ไปคิด และประเมินความเหมาะสมกับสถานการณ์ ต้องดูทุกมิติ ส่วนเมื่อวาน (23 มิ.ย.) ก็ได้มีการพบกับ พล.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้พูดคุยกันว่าหากมีอะไรก็สนับสนุนเกื้อกูลกัน หากกทม.ขาดเหลืออะไร กระทรวงสาธารณสุข ปลัดกระทรวง อธิบดีกรมการแพทย์ พร้อมที่จะเข้าไปสนับสนุน ชวยกันแก้ไขปัญหา
เมื่อถามถึงกรณีมีรายงานว่า รพ.บางแห่งไม่รับตรวจคัดกรองแล้วเนื่องจากมีปัญหาเตียงไม่พอ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน เขาคงมีเหตุผลของเขา แต่คุณภาพของการรักษาพยาบาลไม่ตกลงแน่นอน ส่วนปัญหาเรื่องเตียงผู้ป่วยนั้นก็บริหารจัดการกันอยู่ ตอนนี้ยังเป็นพื้นที่ๆ ใช้ระบบเขตสุขภาพมาช่วยเพื่อแบคอัพซึ่งกันและกัน หากมองเป็นกระจุกอาจจะทำให้มองว่ามีความแน่นหนา ใกล้จุดที่จะไม่เพียงพอ แต่ถ้าเรามองทั้งระบบยังพอบริหารจัดการได้ ยกตัวอย่างตอนนี้ทำไมผู้ป่วยที่รักษาหายยังน้อยกว่าจำนวนผู้ป่วยใหม่ เพราะว่าสัปดาห์ที่แล้วมีการป่วยเป็นคลัสเตอร์เยอะ วันละ 3 พันคน วันนี้ 4 พันคน แต่หาย 1.5- 2 พันคน ดังนั้นก็ต้องนับรอบกลับไป 14 วันที่แล้ว ถ้านับไป 2 สัปดาห์ข้างหน้า ก็จะมีคนรักษาหายมากขึ้น ดังนั้นจากนี้ที่ต้องทำคือการกดไม่ให้มีการแพร่ระบาด หรือเกิดคลัสเตอร์เยอะ ทั้ง กทม.และต่างจังหวัด การทำบับเบิล แอนด์ ซีล ต้องกันทั้งคนเข้าคนออก ไม่ให้มีการเดินทางไปไหนมาไหน ต้องขอความร่วมมือฝ่ายปกครองด้วย
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า เรื่องเตียงซึ่งรพ.บุษราคัมใกล้จะต้องส่งคืนพื้นที่แล้ว ตอนนี้ต้องทำหลายๆ อย่าง เรื่องการเตรียมจัดหาพื้นที่ ซึ่งตนได้แจ้งต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแล้ว ดูว่าส่วนราชการจะมีพื้นที่เหมาะสมในการทำ รพ.สนาม เหมือนกับที่รพ.บุษราคัม หรือไม่ ซึ่งที่เมืองทองถือว่าเหมาะสมมากเพราะแอร์ในห้องแสดงสินค้า ที่ใช้เป็นหอผู้ป่วยขณะนี้มีการแยกออกจากพื้นที่ข้างนอก ทำให้ไม่ต้องใช้อากาศแยกกันระหว่างผู้ป่วยกับคนไม่ป่วย ทั้งนี้ตนดูหลายที่ เช่น ที่สถานีกลางบางซื่อ ไม่สามารถนำมาทำได้ เพราะระบบแอร์ไม่ได้มีการแยกกัน ไม่มีโซนแยกกัน ดังนั้นอาจจะต้องไปเจรจรา ขอความเมตาจากประธานเมืองทองธานี เพื่อขอใช้พื้นที่ต่ออีกประมาณ 2-3 เดือน ได้หรือไม่ จะต้องทำหรือมีเงื่อนไขอย่างไร เพราะจุดนี้บุษราคัมมีประโยชน์มาก หากไม่มี รพ.นี้ พื้นที่ กทม.จะยุ่งมาก กระทรวงสาธารณสุขก็ยุ่งเพราะที่ไหนมีคนป่วยเราก็ต้องเข้าไปช่วยเหลือ
"กระทรวงสาธารณสุขไม่มีวันยอมให้ระบบสาธาณรสุขล่มสลายทั้งประเทศ หากจำเป็นจริงๆ ก็ต้องระดมบุคลากรจากทั้งประเทศมาช่วยกันทำงาน ซึ่งรพ.บุษราคัมก็ทำเช่นนี้ มีการหมุนเวียนกันมาทำงาน แทพย์ พยาบาลมีประสบการณ์ ในการบริหารจัดการ การปฏิบัติงานใน รพ.ภาคสนาม ซึ่งทำได้เก่งๆ ทั้งนั้น ไม่ใช่แค่ฉีดยา วัดไข้ เท่านั้น แต่สามารถประกอบเครื่องมือต่างๆ ได้ด้วย ดังนั้นขอให้ความมั่นใจไม่ไปถึงจุดนั้นแน่นอน" นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า ในต่างจังหวัดก็มีผู้ป่วยหลายคลัสเตอร์จะทีปัญหาในการหมุนเวียนบุคลากรมาช่วยดูแลส่วนกลางหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้น้ำหนักการระบาดอยู่ที่ กทม. ปริมณฑล และอีก 2-3 จังหวัดเท่านั้น ยังกระจายได้ ที่เราพยายามแก้ไขพื้นที่ปัญหาให้ได้ก่อน จะได้ไม่ต้องใช้สรรพกำลังอะไรมาก
เมื่อถามว่า ตอนนี้มีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่การกระจายวัคซีนยังไม่ทั่วถึง จะกระทบกับความพร้อมเปิดประเทศหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตรงนั้นอีก 120 วัน เราทำความพร้อมทุกอย่างให้ได้ ส่วนจะเปิดได้หรือไม่ได้ก็ต้องมีการประชุมกัน มีการหารือกัน แต่ไม่ใช่ว่าเราไม่ทำอะไรเลย แล้วบอกว่าเป็นอย่างนี้แล้วอย่าเปิดดีกว่า ไม่ใช่ เราต้องทำความพร้อมทุกอย่าง ถ้าทำความพร้อมทุกอย่างแล้วยังเปิดไม่ได้ก็คือเปิดไม่ได้ แต่เราได้ทำทุกอย่างแล้ว นำเสนอนายกฯ ว่ามิติสาธารณสุขเป็นอย่างไร มิติเศรษฐกิจเป็นอย่างไร มิติความมั่นคงเป็นอย่างไรท่องเที่ยวเป็นอย่างไร ไปประเมินกันตรงนั้น แต่ต้องทำ
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ยังมี 60 จังหวัด ที่มีผู้ติดเชื้อต่ำกว่า 20 ราย ดังนั้นน่าจะสามารถหมุนเวียนบุคลากรมาดูแลพื้นที่ที่มีการติดเชื้อมากขึ้นได้