วันที่ 24 มิถุนายน พ.ต.ต.อิทธิพล คำหอม สารวัตรสอบสวน สภ.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งเหตุคนร้ายจี้ชิงทรัพย์ ปั๊มน้ำมันซัสโก้ ริมถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ ต.คลองวาฬ ห่างจาก สภ.คลองวาฬ 3 กิโลเมตร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ไปที่เกิดเหตุ ภายในปั๊มน้ำมันพบนายภานุชาติ ปานอินทร์ อายุ 27 ปี ยืนรอให้ปากคำด้วยอาการตกใจ ตรวจสอบพบว่าที่หัวจ่ายน้ำมันมีการ
ขณะปฏิบัติหน้าที่มีรถกระบะ ยี่ซูซุดีแม็กซ์สีขาว ทะเบียน 3 ฒข 6233 กทม. วิ่งเข้ามาที่หัวจ่าย โดยคนขับสวมเสื้อลายพรางทหารสีเขียว เปิกกระจกรถบอกให้เติมน้ำมันเต็มถัง เมื่อพนักงานบริการกำลังน้ำมัน สังเกตุคนร้ายก้มค้นหาสิ่งของภายในรถ จากนั้นได้หยิบอาวุธปืนพกสั้นขึ้นมาขู่ พร้อมแจ้งว่า เพิ่งก่อเหตุยิงคนตายที่กรุงเทพฯ ให้เติมเต็มถึง และไม่จ่ายค่าน้ำมัน พร้อมท้าทายให้แจ้งตำรวจได้ทันที ทำให้พนักงานปั๊มน้ำมันที่เห็นเหตุการณ์หลายคนวิ่งหนีแตกกระเจิง ส่วนผู้ก่อเหตุหลังจากรถกระบะเติมน้ำมันเต็มถัง ราคา 1,800 บาท ได้ขับรถหนีไปบนถนนเพชรเกษมมุ่งหน้าไปภาคใต้อย่างรวดเร็ว เมื่อได้สติพนักงานได้โทรศัพท์แจ้ง 191
ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.วันชัย ธารธรรม ผบก.ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์ เดินทางมาที่ สภ.คลองวาฬ พร้อมเชิญผู้จัดการปั๊มน้ำมัน พนักงานมาให้ปากคำ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ออกหมายจับ นายกวิน แสงนิลกุล อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 461 ซอยรังสิต นครนายก 44 ต.ประชาธิปัติย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ในข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะและมีอาวุธปืน และทราบว่าผู้ต้องหาหนีไปยังจังหวัดระนอง
มีรายงานว่า หลังคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนข่มขู่เด็กปั๊มเพื่อเติมน้ำมันฟรี ต่อมามีการแชร์ข้อความในสังคมโซเชียล โดยประชาชนตั้งข้อสังเกต พร้อมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก กรณีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับรถกระบะของคนร้ายที่แล่นผ่านถนนเพชรเกษม ตั้งแต่ ต.คลองวาฬ ผ่าน ด่านตรวจความมั่นคง 24 ชั่งโมง ด้านหน้า สภ.ห้วงยาง และผ่าน สภ.ทับสะแก สภ.ธงชัย สภ บางสะพาน สภ.บางสะพานน้อย ถึงเขต รอยต่อ อ.ปะทิว จ.ชุมพร ระยะทางกว่า 130 กิโลเมตร ขณะเดียวกันก่อนขับถึง ต.คลองวาฬ ได้ผ่านด่านตรวจความมั่นคง 24 ชั่วโมง ด่านหน้า สภ.สามร้อยยอด แต่ไม่มีการสกัดจับคนร้ายแต่อย่างใด ทั้งที่คนร้ายใช้ถนนเพชรเกษมเป็นเส้นทางหลักในการหลบหนี

