สำหรับคลัสเตอร์ใหม่วันนี้มีทั้ง กทม.3 จุด พบที่แคมป์ก่อสร้าง ซ.รามคำแหง 7 เขตบางกะปิ แคมป์ก่อสร้าง สีลม เขตบางรัก และบริษัทผลิตหมวกกันน็อค เขตบางขุนเทียน รวม 455 ราย , สมุทรสาคร 2 จุด ที่โรงงานผลิตภัณฑ์ยาง และโรงงานกุ้ง รวม 18 ราย , นนทบุรี 1 จุด ที่โรงงานสาหร่ายแปรรูป รวม 11 ราย , ปทุมธานี 1 จุด ที่บ้านเด็กอ่อนรังสิต 39 ราย ขณะที่การติดเชื้อในปท.วันนี้ 4,094 ราย มาจากต่างประเทศ 14 ราย มีลอบเข้าประเทศตามช่องทางธรรมชาติจากกัมพูชา 2 ราย ยอดติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 229 ราย  ยอดหายป่วย 1,578 ราย ยังรักษาอยู่ 39,517 ราย อาการหนักรวมโคม่าสูงขึ้น 1,564 ราย วันที่ 24 มิ.ย.2564  ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศบค.) พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ซึ่งล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 4,108 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 4,094 ราย (แยกเป็นจากระบบเฝ้าระวังและบริการสุขภาพ 2,835 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 1,030 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 229 ราย) และเดินทางมาจากต่างประเทศอีก 14 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 232,647 ราย วันนี้มีผู้เสียชีวิตอีก 31 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตขยับไปที่ 1,775 ราย รักษาหายเพิ่มอีก 1,578 ราย รวมยอดรักษาหาย 191,355 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 39,517 ราย เป็นการรักษาอยู่ในรพ.13,320 ราย รพ.สนาม 26,197 ราย ทั้งนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 1,564 ในจำนวนผู้ป่วยหนักนี้ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจถึง 445 ราย เฉพาะการระบาดในระลอกเดือนเมษายน ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.- 24 มิ.ย.64 พบผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 4,108 ราย โดยมีผู้ป่วยยืนยันสะสม 203,784 ราย รักษาหายเพิ่ม 1,578 ราย รวมรักษาหายแล้ว 163,929 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 39,517 ราย เสียชีวิต 31 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 1,681 ราย รายละเอียดผู้เสียชีวิต 31 ราย เป็นเพศชาย 16 ราย เพศหญิง 25 ราย อายุ 29-91 ปี อยู่ในพื้นที่ กทม.มากที่สุด 28 ราย พระนครศรีอยุธยา 2 ราย ลพบุรี 1 ราย โดยมีโรคประจำตัว เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง หัวใจ หลอดเลือดสมอง โรคอ้วน โรคปอด ซึ่งเป็นโรคประจำตัวที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น  โดยในจำนวนนี้ เป็นการติดเชื้อจากคนในครอบครัว และคนอื่นๆ มากเช่นเดิม  อาศัยและเดินทางเข้าไปในสถานที่ระบาด ไปในสถานที่แออัดพลุกพล่าน สำหรับ 10 อันดับที่พบผู้ป่วยภายในประเทศสูงสุด อันดับ 1 ยังเป็นกรุงเทพมหานคร 1,359 ราย อันดับ 2 สมุทรปราการ 297 ราย อันดับ 3 สมุทรสาคร 259 ราย อันดับ 4 ชลบุรี 254 ราย อันดับ 5 สงขลา 216 ราย อันดับ 6 นนทบุรี 170 ราย อันดับ 7 ปทุมธานี 157 ราย อันดับ 8 ยะลา 119 ราย อันดับ 9 ระยอง 92 ราย อันดับ 10 นครปฐม 91 ราย