จากเหตุการณ์ช็อก! แฟนบอลทั่วโลก "คริสเตียน เอริคเซน" มิดฟิลด์จอมทัพทีมชาติเดนมาร์ก วัย 29 ปี หมดสติล้มลงในสนามระหว่างการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือยูโร 2020 กับทีมชาติ ฟินแลนด์ รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี นัดแรก ที่สนาม พาร์คเคน ประเทศเดนมาร์ก โดยทีมแพทย์สนามได้ช่วยกันปั๊มหัวใจเพื่อยื้อชีวิตนานถึง 13 นาทีในสนาม จนทำให้ "เอริคเซน" รู้สึกตัว ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล
"มอร์เทน โบเซน" แพทย์ประจำทีมชาติเดนมาร์ก ออกมาเปิดเผย ว่า เอริคเซน มีอาการหัวใจวายกระทันหัน หยุดหายใจไปแล้วชั่วครู่ในสนาม ก่อนจะใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจทำให้เจ้าตัวกลับมาได้ราวปาฏิหาริย์
"ผลการตรวจของเขาจนถึงเวลานี้ทุกอย่างปกติดี ส่วนสาเหตุที่แท้จริงนั้นเรายังไม่สามารถตอบได้ ตอนเกิดเหตุผมไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง ผมเห็นภาพจากการถ่ายทอดสดเหมือนทุกคน จริงๆ เราเสียเขาไปแล้ว ก่อนที่เราจะช่วยชีวิตเขากลับมาได้ มันคือภาวะหัวในหยุดเต้น หรืออาการหัวใจวาย เราใกล้จะเสียเขาแค่ไหนผมตอบไม่ได้ แต่เราได้เขากลับมาหลังจากช็อตไฟฟ้ากระตุ้นหัวใจไป 1 ครั้ง มันเกิดขึ้นรวดเร็วมาก และการวินิจฉัยของเราก็ผ่านไปด้วยดี เราไม่อยากจะลงรายละเอียดไปมากกว่านี้ว่าทำไมมันถึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น" แพทย์ประจำทีมชาติเดนมาร์ก กล่าว
ด้าน "สก็อตต์ เมอร์เรย์" ที่ปรึกษาของ National Health Service (NHS) หรือระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ ที่อังกฤษให้มุมมองว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับ "คริสเตียน เอริคเซน" คือ หัวใจหยุดเต้น และนี่คือความอันตราย หากมิดฟิด์วัย 29 ปี จะลงเล่นฟุตบอลต่อไป จริงอยู่ที่สโมสรฟุตบอลอาชีพ ต่างมีระบบการตรวจสุขภาพให้กับนักกีฬาอย่างละเอียด เพื่อความมั่นใจ
"แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับ คริสเตียน เอริคเซน อาจจะเป็นกรณีศึกษา ที่ไม่พบว่าเป็นโรค จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ระหว่างการแข่งขันฟุตบอลที่ผ่านมาอิตาลี มีข้อกำหนดห้ามเข้าร่วมการแข่งขันกีฬา หากพบว่ามีความผิดปกติของหัวใจ ดังนั้นกรณีนี้ อาจจะทำให้การค้าแข้งของ คริสเตียน อีริคเซ่น กับทีมอินเตอร์มิลาน ต้องหยุดลงในที่สุด" ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจฯ กล่าว
หลังจากที่อาการดีขึ้น "เอริคเซน" ได้ส่งข้อความผ่านเอเย่นต์ส่วนตัวถึงแฟนบอล เพื่อขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ พร้อมยืนยันจะไม่มีทางยอมแพ้อย่างแน่นอน
“ผมอยากขอขอบคุณแฟนบอลทุกคน และจะไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอน ตอนนี้ผมแค่ต้องการทำความเข้าใจสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น ผมอยากกล่าวขอบคุณแฟนบอลทุกคน สำหรับสิ่งที่ทำให้ผมในช่วงก่อนหน้านี้” เอเย่นต์เอริคเซน กล่าวผ่านสื่อต่างประเทศ
จากเหตุกาณ์ดังกล่าว แพทย์ได้ทำการผ่าตัดฝังเครื่องกระตุกหัวใจอัตโนมัติ (ICD) ให้ เอริคเซน และแพทย์ก็อนุญาตให้เจ้าตัวออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เมื่อวันศุกร์ที่ 18 มิ.ย.ผ่านมา
สำหรับการฝัง ICD จะช่วยนำไฟฟ้าไปยังหัวใจ เพื่อกระตุ้นในกรณีหัวใจเต้นช้าหรือเร็วแบบผิดจังหวะ เพื่อป้องกันการเสียชีวิตแบบกะทันหัน นอกจากนี้จะยังทำให้ เอริคเซน มีโอกาสกลับมาค้าแข้งระดับอาชีพอีกครั้ง เหมือนอย่างที่ ดาลีย์ บลินด์ ปราการหลังทีมชาติเนเธอร์แลนด์ นั้นเคยใส่มาก่อนและเวลานี้ก็กลับมาเล่นได้อีกครั้ง
"คริสเตียน เอริคเซน" เกิดวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1992 ส่วนสูง 1.82 เมตร หรือ 6 ฟุต ตำแหน่งที่เล่นคือ กองกลางตัวรุก เข้าวงการฟุตบอลมาตั้งแต่เล็ก ด้วยการที่บิดา"โทมัส เอริคเซน" พาเข้าสโมสรเยาวชนมิดเดิลฟาร์ต และในปี 2545 ก็ย้ายไปเข้าสโมสรเยาวชนโอเดินเซอร์ และเมื่อคริสเตียน เอริคเซน อายุได้ 12 ปี ก็สามารถติดเยาวชนทีมชาติเดนมาร์กในรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ทำให้สโมสร อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เยาวชน ดึงตัวไปเข้าทีมในปีถัดไป
หลังจากที่ทีมอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เห็นแวว เอริคเซน ตั้งแต่ยังเด็ก จนในปี 2553 ก็ได้เลื่อนมาเตะในลีกอาชีพของทีม อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ด้วยวัยเพียง 15 ปีเท่านั้น และยังติดเป็นทีมชาติตัวจริงของเดนมาร์กอีกด้วย ซึ่งเป็นทีมชาติที่มีอายุน้อยที่สุดในปีนั้น
จากนั้น เอริคเซน เล่นให้กับทีมอาแจ็กซ์ได้เพียง 3 ปีเท่านั้น ก็ถูกทอตแนม ฮอตสเปอ ร์ซื้อตัวมาร่วมทีมด้วย และเล่นให้กับท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ยาวนานถึง 8 ปี ตั้งแต่ 2556-2563 แล้วย้ายสังกัดมาเข้าทีมอินเตอร์มิลาน ในลีกสูงสุดของประเทศอิตาลี ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา