สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย มีคำสั่งห้ามประชาชนในนครซิดนีย์ เมืองเอกของรัฐ เดินทางออกนอกเมือง เพื่อควบคุมเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ซึ่งพบการแพร่ระบาดครั้งแรกในประเทศอินเดีย ที่กำลังแพร่ระบาดในนครซิดนีย์ มิให้ลุกลามไปยังเมืองอื่นๆ รายงานข่าวแจ้งว่า คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นภายหลังจากพบการแพร่ระบาดแบบกลุ่มก้อน หรือคลัสเตอร์ ของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ในพื้นที่ชายหาดบอนไดของนครซิดนีย์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์นี้แล้วจำนวนกว่า 30 ราย ทางด้าน นายกลาดิส เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า คำสั่งห้ามชาวนครซิดนีย์เดินทางออกนอกเมือง จะมีผลบังคับใช้ในสัปดาห์หน้า ซึ่งคำสั่งยังมีผลบังคับใช้กับพื้นที่อีก 7 แห่งในนครซิดนีย์ นอกจากนี้ ทางการรัฐนิวเซาท์เวลส์ ยังมีคำสั่งบังคับใช้มาตรการเข้มงวดอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย เช่น การจำกัดการรวมตัวกันทางสังคม การบังคับให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัยในเวลาที่อยู่ภายในอาคาร เป็นต้น เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด สำหรับ สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงของวันพฤหัสบดีนี้ พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 26 ราย ทำให้มียอดสะสมของผู้ป่วยติดเชื้ออยู่ที่ 30,404 ราย มากเป็นอันดับที่ 125 ของโลก ส่วนผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีจำนวน 910 ราย และผู้ป่วยที่รักษาหายมีจำนวนสะสม 29,307 ราย