เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. นายปนิธิ เสมอวงษ์ รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า ในหลายพื้นที่ของประเทศไทยยังคงมีปริมาณและการกระจายตัวของฝนค่อนข้างน้อย เนื่องจากประสบกับปัญหาฝนทิ้งช่วง และบางพื้นที่มีปริมาณฝนตกที่สามารถวัดได้น้อยกว่า 1 มิลลิเมตร ติดต่อกันเกิน 15 วัน อย่างไรก็ตาม หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ทั้ง 13 หน่วยฯ กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาค ซึ่งได้รับความมือกับกองทัพบกและกองทัพอากาศที่สนับสนุนอากาศยานและกำลังพลในการปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในทุกภูมิภาค และยังคงติดตามสภาพอกาศอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน หากสภาพอากาศเข้าเงื่อนไขก็พร้อมจะขึ้นบินปฏิบัติการช่วยเหลือทันที สำหรับผลปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวานนี้ (21 มิ.ย.64) ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 10 หน่วยปฏิบัติการ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของ จ.ลำปาง กำแพงเพชร สุโขทัย อุตรดิตถ์ แพร่ พิษณุโลก อุทัยธานี นครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี กาญจนบุรี ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ อุบลราชธานี มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ เพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้เขื่อน จำนวน 6 แห่ง อ่างเก็บน้ำ จำนวน 2 แห่ง และบึงบอระเพ็ด นายปนิธิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการติดตามสภาพอากาศเพื่อวางแผนการปฏิบัติการฝนหลวงในช่วงเช้าวันนี้ ผลการตรวจสภาพอากาศจากสถานีเรดาร์ฝนหลวงทั่วประเทศ พบว่า มีบริเวณพื้นที่ภาคใต้เข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง ในเช้าวันนี้จึงมีการวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 1 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ได้แก่ หน่วยฯ จ.สุราษฎร์ธานี ช่วยเหลือพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนรัชชประภา อย่างไรก็ตาม สำหรับ 12 หน่วยปฏิบัติการ ยังคงติดตามสภาพอากาศตลอดทั้งวัน หากสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงและเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง จะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายทันที โดยหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.สงขลา ยังไม่สามารถขึ้นบินปฏิบัติการได้ เนื่องจากเครื่องบินทหารอากาศ ตรวจพิเศษประจำสัปดาห์ ทั้งนี้ พี่น้องเกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ที่ช่องทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100