8 องค์กรภาคธุรกิจท่องเที่ยวดันต่อแผนเปิดท่องเที่ยวพัทยา 1 สิงหาคม รุดหารือ รมต.ทท.และกีฬา-สาธารณ สุข เร่งเสนอ ศบค.ขอจัดสรรวัคซีน 9 แสนโดส ระบุเอกชนพร้อมดำเนินการตามข้อกำหนด เพียงยังไม่มีความชัดเจนเรื่อง Timeline ของภาครัฐ
นายบุญอนันต์ พัฒนสิน นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา เปิดเผยว่าจากกรณีที่เมืองพัทยามีแผนที่จะเปิดเมืองท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบใหม่ให้ทันในช่วงเดือนสิงหาคมปีนี้ ตามโครงการ Pattaya Move on ในรูปแบบของ Sealed Route หรือการกำหนดพื้นที่ท่องเที่ยวเฉพาะใน 2 อำเภอหลักได้แก่ บางละมุง-สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งสิ่งสำคัญคือประชาชนและบุคลากรด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่จะต้องได้รับวัคซีนครบ 70 % ตามเป้าหมายหรือประมาณ 4.5 แสนรายหรือ 9 แสนโดสนั้น
ล่าสุดตัวแทนจาก 8 องค์กรภาคธุรกิจท่องเที่ยวได้เดินทางเข้าพบ รมต.ว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมทั้งตัวแทนจากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอให้ขับเคลื่อนแผนโครงการดังกล่าวให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการจัดสรรวัคซีนได้ตรงตามจำนวนและระยะเวลาตามที่ระบุไว้หรือไม่ ด้วยพบว่าการกระจายวัคซีนของภาครัฐตามแผนเดิมนั้น จำเป็นต้องจัดสรรใหม่ไปยังพื้นที่เสี่ยงในหลายจุด อย่าง กทม.และคลัสเตอร์ต่างๆในประเทศจนทำให้ปริมาณการจัดสรรไม่ตรงตามที่คาดการณ์ไว้ อย่างกรณีของภาคการท่องเที่ยวที่มีการนำเสนอรายชื่อผ่านไปทาง กก.ควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี กว่า 1 หมื่นรายชื่อแต่ที่ผ่านมาได้รับการจัดสรรเพียง 200 กว่ารายเท่านั้นในช่วงที่ผ่านมา
นายบุญอนันต์ กล่าวต่อไปว่านับตัวเลขจนถึงปัจจุบันพบว่าในพื้นที่เมืองพัทยามีผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้วประมาณ 6-7 หมื่นราย จากจำนวนตัวเลขของผู้ที่ต้องได้รับการฉีดวัคซีนให้ทัน เพื่อรองรับการเปิดเมืองท่องเที่ยวอีกครั้งจำนวนกว่า 4.5 แสนราย ซึ่งจากการรับฟังคำชี้แจงพบว่าที่ผ่านมาปัญหาติดอยู่ที่การผลิตและการส่งมอบวัคซีนจากผู้ผลิต ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขยืนยันแล้วว่าขณะนี้เริ่มได้รับการจัดส่งวัคซีนแล้วและจะทันกำหนดระยะเวลาในช่วงเดือนกันยายนนี้อย่างแน่นอน ส่วนแผนการจัดทำ Sealed Route ของเมืองพัทยานั้นก็จะได้นำเรื่องเสนอต่อ ศบค.ชุดใหญ่ เพื่อจัดสรรให้ ซึ่งคงต้องรอความชัดเจนและ Timeline ของภาครัฐอีกครั้งว่าจากนี้จะเดินหน้าอย่างไร โดยจนถึงขณะนี้ทางภาคเอกชนก็ตั้งความหวังไว้ว่าโครงการน่าจะสำเร็จในสัดส่วน 70 % เช่นกัน
อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน แต่คงจะมาเสียเวลาในการรอการจัดสรรวัคซีนแต่เพียงอย่างเดียวไม่ได้ ดังนั้นทางภาคธุรกิจท่องเที่ยวก็ต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับให้ทันตามกำหนดด้วย เช่น ข้อกำหนดในการจัดทำ Sealed Route หรือการจัดการท่องเที่ยวในรูปแบบจัดทำข้อกำหนดพื้นที่ท่องเที่ยว การเข้าพัก การเดินทาง และการควบคุมป้องกันในสถานที่ท่องเที่ยว ที่ต้องได้ตรงตามมาตรฐาน Sha + และ SOP ของภาครัฐ โดยในวันนี้จะมีการประชุมร่วมกับห้างสรรพสินค้าต่างๆในพื้นที่เมืองพัทยาเพื่อหาแนวทางในการจัดสรรพื้นที่บริการรองรับนักท่องเที่ยวเพื่อรองรับโครงการด้วย ซึ่งจนถึงขณะนี้มั่นใจว่าทุกภาคส่วนในพื้นที่มีการตั้งการ์ดสูงและมีมาตรการในการป้องกันอย่างเข้มงวด ทั้งเรื่องของการสวมใส่หน้ากากอนามัย การใช้เจล ล้างมือ การเว้นระยะทางสังคมหรือ Social Distancing โดยจะเห็นได้จากคลัสเตอร์หรือพื้นที่เกิดการติดเชื้อไม่พบว่ามีพื้นที่ท่องเที่ยวแต่อย่างใด...
นายบุญอนันต์ พัฒนสิน นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา เปิดเผยว่าจากกรณีที่เมืองพัทยามีแผนที่จะเปิดเมืองท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบใหม่ให้ทันในช่วงเดือนสิงหาคมปีนี้ ตามโครงการ Pattaya Move on ในรูปแบบของ Sealed Route หรือการกำหนดพื้นที่ท่องเที่ยวเฉพาะใน 2 อำเภอหลักได้แก่ บางละมุง-สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งสิ่งสำคัญคือประชาชนและบุคลากรด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่จะต้องได้รับวัคซีนครบ 70 % ตามเป้าหมายหรือประมาณ 4.5 แสนรายหรือ 9 แสนโดสนั้น
ล่าสุดตัวแทนจาก 8 องค์กรภาคธุรกิจท่องเที่ยวได้เดินทางเข้าพบ รมต.ว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมทั้งตัวแทนจากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอให้ขับเคลื่อนแผนโครงการดังกล่าวให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการจัดสรรวัคซีนได้ตรงตามจำนวนและระยะเวลาตามที่ระบุไว้หรือไม่ ด้วยพบว่าการกระจายวัคซีนของภาครัฐตามแผนเดิมนั้น จำเป็นต้องจัดสรรใหม่ไปยังพื้นที่เสี่ยงในหลายจุด อย่าง กทม.และคลัสเตอร์ต่างๆในประเทศจนทำให้ปริมาณการจัดสรรไม่ตรงตามที่คาดการณ์ไว้ อย่างกรณีของภาคการท่องเที่ยวที่มีการนำเสนอรายชื่อผ่านไปทาง กก.ควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี กว่า 1 หมื่นรายชื่อแต่ที่ผ่านมาได้รับการจัดสรรเพียง 200 กว่ารายเท่านั้นในช่วงที่ผ่านมา
นายบุญอนันต์ กล่าวต่อไปว่านับตัวเลขจนถึงปัจจุบันพบว่าในพื้นที่เมืองพัทยามีผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้วประมาณ 6-7 หมื่นราย จากจำนวนตัวเลขของผู้ที่ต้องได้รับการฉีดวัคซีนให้ทัน เพื่อรองรับการเปิดเมืองท่องเที่ยวอีกครั้งจำนวนกว่า 4.5 แสนราย ซึ่งจากการรับฟังคำชี้แจงพบว่าที่ผ่านมาปัญหาติดอยู่ที่การผลิตและการส่งมอบวัคซีนจากผู้ผลิต ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขยืนยันแล้วว่าขณะนี้เริ่มได้รับการจัดส่งวัคซีนแล้วและจะทันกำหนดระยะเวลาในช่วงเดือนกันยายนนี้อย่างแน่นอน ส่วนแผนการจัดทำ Sealed Route ของเมืองพัทยานั้นก็จะได้นำเรื่องเสนอต่อ ศบค.ชุดใหญ่ เพื่อจัดสรรให้ ซึ่งคงต้องรอความชัดเจนและ Timeline ของภาครัฐอีกครั้งว่าจากนี้จะเดินหน้าอย่างไร โดยจนถึงขณะนี้ทางภาคเอกชนก็ตั้งความหวังไว้ว่าโครงการน่าจะสำเร็จในสัดส่วน 70 % เช่นกัน
อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน แต่คงจะมาเสียเวลาในการรอการจัดสรรวัคซีนแต่เพียงอย่างเดียวไม่ได้ ดังนั้นทางภาคธุรกิจท่องเที่ยวก็ต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับให้ทันตามกำหนดด้วย เช่น ข้อกำหนดในการจัดทำ Sealed Route หรือการจัดการท่องเที่ยวในรูปแบบจัดทำข้อกำหนดพื้นที่ท่องเที่ยว การเข้าพัก การเดินทาง และการควบคุมป้องกันในสถานที่ท่องเที่ยว ที่ต้องได้ตรงตามมาตรฐาน Sha + และ SOP ของภาครัฐ โดยในวันนี้จะมีการประชุมร่วมกับห้างสรรพสินค้าต่างๆในพื้นที่เมืองพัทยาเพื่อหาแนวทางในการจัดสรรพื้นที่บริการรองรับนักท่องเที่ยวเพื่อรองรับโครงการด้วย ซึ่งจนถึงขณะนี้มั่นใจว่าทุกภาคส่วนในพื้นที่มีการตั้งการ์ดสูงและมีมาตรการในการป้องกันอย่างเข้มงวด ทั้งเรื่องของการสวมใส่หน้ากากอนามัย การใช้เจล ล้างมือ การเว้นระยะทางสังคมหรือ Social Distancing โดยจะเห็นได้จากคลัสเตอร์หรือพื้นที่เกิดการติดเชื้อไม่พบว่ามีพื้นที่ท่องเที่ยวแต่อย่างใด...