บันยันทรีกรุ๊ป ผู้นำในอุตสาหกรรมการบริการระดับโลกที่ดำเนินงานบนพื้นฐานของความยั่งยืนได้ร่วมกับ เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป และยูเนสโก ขยายเครือข่ายปฏิญญายูเนสโกเพื่อการเดินทางอย่างยั่งยืน หรือเรียกว่า ปฏิญญายูเนสโก สู่ระดับโลก โดยจะส่งผลให้ธุรกิจด้านการบริการของบันยันทรีทั้ง 48 แห่งยึดถือแนวทางการปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมอย่างมีความรับผิดชอบตามปฏิญญายูเนสโก นาย ฌอง-ฟิลิปป์ โมนอด์ ประธานอาวุโสฝ่ายสื่อสารภาครัฐและองค์กรของ เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป กล่าวว่า ท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดและการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในช่วงเวลาดังกล่าวทำให้นักเดินทางและบริษัทท่องเที่ยวต่างมองหาโอกาสในการดูแลโลกให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งตั้งแต่บันยันทรีกรุ๊ปได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 27 ปีที่ผ่านมา ทางบริษัทฯ ได้พัฒนาธุรกิจบนพื้นฐานของความยั่งยืนและเป็นแบบอย่างที่ดีโดยเป็นแบรนด์ด้านการบริการแห่งแรก ๆ ที่ร่วมลงนามในปฏิญญายูเนสโก สำหรับปฏิญญายูเนสโกเกิดขึ้นจากความร่วมมือของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยูเนสโก และ เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป เมื่อปี 2562 ปัจจุบันมีโรงแรมที่ร่วมลงนามแล้วกว่า 4,000 แห่งทั่วโลก โรงแรมที่เข้าร่วมลงนามได้สนับสนุนการลดและเลิกใช้พลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียว รวมทั้งส่งเสริมเศรษฐกิจและวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยโรงแรมดังกล่าวได้รับประกาศนียบัตรที่ระบุว่า ได้ร่วมลงนามในปฏิญญายูเนสโกเพื่อการเดินทางอย่างยั่งยืน ทั้งยังสานต่อพันธสัญญาในทุกปี พร้อมทั้งรายงานความคืบหน้าในการดำเนินงาน นอกจากนี้ยังได้เพิ่มการมองเห็นด้วยตราสัญลักษณ์ผ่านเว็บไซต์จองการเดินทางที่หลากหลายของ เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป ในขณะที่สถานการณ์โรคระบาดได้กระตุ้นให้นักเดินทางเกิดความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทั้งนี้ปฏิญญายูเนสโก จะเข้ามาส่งเสริมแนวทางการปฏิบัติอย่างมีความรับผิดชอบ เช่น การพิทักษ์สิ่งแวดล้อม การสร้างชุมชนเข้มแข็ง และการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม โดยมีเป้าหมายสูงสุดเพื่อการเปลี่ยนแปลงรูปแบบและผลกระทบของการท่องเที่ยวระดับโลก ซึ่งบันยันทรีกรุ๊ปก่อตั้งขึ้นตามแนวทางการปฏิบัติเพื่อความยั่งยืน และสร้างการมีส่วนร่วมที่เป็นเอกลักษณ์ในการพัฒนามาตรฐานสากลสำหรับการเดินทางที่ยั่งยืนมากขึ้นในอนาคต ขณะที่ นายสตีฟ นิวแมน ผู้ช่วยรองประธาน ผู้อำนวยการฝ่ายความยั่งยืนและผู้อำนวยการฝ่ายประสานงานของมูลนิธิ Banyan Tree Global Foundation (BTGF) กล่าวว่า บันยันทรีกรุ๊ปมีพันธกิจในการสร้างความตระหนักด้านความยั่งยืน และสร้างผลกระทบด้วยการแบ่งปันสิ่งที่ได้เรียนรู้และมาตรการด้านความยั่งยืนเพื่อช่วยให้โรงแรมอื่น ๆ นำไปใช้ปฏิบัติ ซึ่งพันธกิจดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร ในฐานะผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพและพลังในการเปลี่ยนแปลงความไม่เสมอภาคทั่วโลก ช่วยเหลือพาร์ทเนอร์ และเพื่อนร่วมอุตสาหกรรมให้ตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม ฟื้นฟูโลกหลังวิกฤติโรคระบาดให้ดีขึ้นกว่าเดิม พร้อมกันนี้ บันยันทรีกรุ๊ปได้รับการยอมรับในด้านความมุ่งมั่นในการพิทักษ์สิ่งแวดล้อมและพัฒนาชุมชนผ่านมูลนิธิ Banyan Tree Global Foundation (BTGF) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ไม่แสวงผลกำไร และยังมีหน้าที่ดูแลการดำเนินงานของบริษัทให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ โครงการ Stay for Good ของทางบริษัทมุ่งเน้น 3 ด้านหลัก ได้แก่ สิ่งแวดล้อม ชุมชน และความรับผิดชอบ ซึ่งรวมถึงเป้าหมายในการลดการใช้ทรัพยากรลงร้อยละ 5 ปีต่อปี อีกทั้งยังเป็นสื่อกลางในการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงสังคมในทางที่ดีขึ้น ด้วยการมอบเงินช่วยเหลือเพื่อส่วนรวมให้กับองค์กรภายนอก 8 แห่ง เพื่อนำไปใช้ในโครงการพัฒนาชุมชนและสิ่งแวดล้อมให้บรรลุตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ ซึ่งนายเอร์เนสโต อ็อตโตเน อาร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการทั่วไปด้านวัฒนธรรมของยูเนสโก กล่าวว่า บันยันทรีกรุ๊ปมีความพร้อมในการช่วยแนะนำมาตรฐานและแนวทางการปฏิบัติด้านความยั่งยืนในอนาคต โดยเฉพาะวิกฤตโรคระบาดที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าไม่สามารถดำเนินงานแบบเดิมได้อีกต่อไป ต้องร่วมมือกันเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวไปพร้อม ๆ กับการช่วยเหลือชุมชน สร้างงาน ส่งเสริมวัฒนธรรม และปกป้องมรดกทางวัฒนธรรม