ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์/ สร้างมูลค่าเพิ่มข้าวหอมมะลิ บุรีรัมย์ : ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมสำนักงานเกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ โดยมี นายวิทยา จันทร์ฉลอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานในการประชุมจัดทำคำขอขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ครั้งที่ 1/2559 เพื่อกำหนดนโยบายในการพัฒนาการผลิตข้าวหอมมะลิที่ปลูกในดินภูเขาไฟสู่การรับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indications,GI) เพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตข้าวหอมมะลิ และเพิ่มช่องทางการตลาดให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยมีผู้แทนกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ผู้แทนกรมการข้าว คณะทำงาน ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้นำเกษตรกรในพื้นที่ เข้าประชุมพร้อมกัน ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ทั้งนี้เนื่องจาก จ.บุรีรัมย์ มีพื้นที่การเกษตรสำหรับเพาะปลูกข้าวหอมมะลิในดินภูเขาไฟประมาณ 5,000 ไร่ ทำให้ผลผลิตข้าวหอมมะลิในพื้นที่ดังกล่าว มีคุณภาพแตกต่างไปจากข้าวหอมมะลิที่เพาะปลูกในพื้นที่อื่น จ.บุรีรัมย์จึงจำเป็นต้องเร่งผลักดันให้เกิดการรวมกลุ่มของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในพื้นที่ดินภูเขาไฟ และยื่นคำขอขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์เพื่อให้เกิดประโยชน์และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับข้าวหอมมะลิของเกษตรกร ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ในที่ประชุมได้มีมติเสนอชื่อสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ คือ “ข้าวหอมมะลิดินภูเขาไฟบุรีรัมย์” เป็นข้อที่บ่งชี้ถึงความเป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ในการเพาะปลูกข้าวหอมมะลิในพื้นที่ดินภูเขาไฟ ซึ่งแตกต่างจากการเพาะปลูกข้าวหอมมะลิในพื้นที่อื่น โดยจะรวบรวมข้อมูลและยื่นคำขอขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ และจัดทำคู่มือให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมกลุ่มในคราวเดียวกัน นายวิทยา  กล่าวว่า การจดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ เป็นการกำหนดแหล่งที่มาของสินค้าที่มีการเชื่อมโยงกับสภาพแวดล้อม และสภาพภูมิศาสตร์ ที่กำเนิดของสินค้า ซึ่งหากสามารถได้รับการรับรองให้ใช้ตราสัญลักษณ์ GI ก็จะเป็นการยกระดับมาตรฐานสินค้าข้าวหอมมะลิดินภูเขาไฟ ของ จ.บุรีรัมย์ ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย สร้างกลไกทางการตลาดเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าของเกษตรที่เพาะปลูกข้าวหอมมะลิในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งอนาคตจะต้องมีการทำข้อตกลงกับโรงสี และผู้ประกอบการค้าข้าว ในการกำหนดอัตราซื้อผลผลิตข้าวของเกษตรกรในพื้นที่เพื่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน