กองทรัสต์ BOFFICE ยกระดับคุณภาพทรัพย์สินอาคารสำนักงาน ‘ภิรัชทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์’ ติดตั้งระบบFACE SCAN RECOGNITION ควบคุมการเข้า-ออกอาคาร สามารถสแกนและจดจำใบหน้า ตรวจวัดอุณหภูมิ รวมถึงเชื่อมต่อข้อมูลชั้นของผู้เช่าแบบอัตโนมัติไปยังลิฟต์โดยสาร ช่วยลดการสัมผัสตอบสนอง New Normal ชู 4 มาตรการหลักป้องกัน COVID-19 พร้อมโชว์อัตราการเช่าพื้นที่ทรัพย์สินทั้ง 2 อาคาร ณ สิ้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาอยู่ที่ 92-94% นายอรรถกร เนตร์เนรมิตรดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภิรัช รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เปิดเผยว่า บริษัทให้ความสำคัญกับการเพิ่มศักยภาพของอาคารสำนักงานภิรัชทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในทรัพย์สินของทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ภิรัชออฟฟิศ หรือ Bhiraj Office Leasehold REIT (BOFFICE) ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท เพื่อตอกย้ำความโดดเด่นของทรัพย์สิน ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานชั้นนำเกรด A ในรูปแบบ Mixed-use Commercial Complex ภายในบริเวณเดียวกับศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ บนทำเลศักยภาพสุขุมวิทตอนต้นที่เป็นย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) ของกรุงเทพฯ สามารถเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสพร้อมพงษ์เพื่อเดินทางเข้า-ออกเมืองได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ล่าสุด อาคารสำนักงานภิรัชทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์ ได้ติดตั้งระบบ FACE SCAN RECOGNITION เพื่อควบคุมการเข้า-ออกอาคาร ระบบดังกล่าวเป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่สามารถสแกนและจดจำใบหน้า ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย รวมถึงเชื่อมต่อข้อมูลชั้นของผู้เช่าไปยังลิฟต์โดยสารแบบอัตโนมัติโดยไม่ต้องกดลิฟต์ ช่วยลดการสัมผัส เพิ่มความสะดวกสบายแก่ผู้เช่าสามารถเข้า-ออกอาคารได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น “กองทรัสต์ BOFFICE ไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาอาคารสำนักงานภิรัชทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์ ให้มีความทันสมัยอยู่ตลอดแม้ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยการติดตั้งระบบ FACE SCAN RECOGNITION นอกจากทำให้อาคารมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยยิ่งขึ้น ยังตอบสนองการใช้ชีวิตแบบปกติใหม่หรือ New Normal ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของ COVID-19” นายอรรถกร กล่าวต่อว่า ในขณะเดียวกันอาคารสำนักงานภิรัชทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์ ได้วางมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างเข้มงวด เพื่อให้ความมั่นใจด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยแก่ผู้เช่าและผู้มาติดต่อทุกคน โดยเน้นย้ำทุกหน่วยงานต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ทั้งการเฝ้าระวัง การป้องกันและการควบคุม สำหรับอาคารได้ดำเนินการตามมาตรการ 4 ข้อ ด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยจาก COVID-19 อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การตั้งจุดคัดกรองบริเวณทางเข้าอาคาร การรักษาระยะห่างทางสังคม ขอความร่วมมือลดการสัมผัสเพื่อลดโอกาสติดเชื้อ และเพิ่มความถี่การทำความสะอาดและฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อพื้นที่ส่วนต่าง ๆ ของอาคาร โดยเฉพาะพื้นที่ส่วนกลางที่ต้องใช้งานร่วมกัน นอกจากนี้ได้ขอความร่วมมือผู้ใช้อาคารทุกคนต้องลงทะเบียนในแอปพลิเคชั่นไทยชนะ สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลเพื่อลดความแออัด จำกัดจำนวนผู้ใช้ลิฟต์ไม่เกิน 9 คน ขณะที่ผลการดำเนินงานของกองทรัสต์ BOFFICE ในไตรมาส 1/2564 อยู่ในระดับที่ดี ถึงแม้อยู่ในช่วงสถาณการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 จากการมุ่งเน้นบริหารจัดการทรัพย์สินของกองทรัสต์ให้สามารถตอบสนองผู้เช่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย ณ สิ้นเดือนเมษายน 2564 ทรัพย์สินของกองทรัสต์ BOFFICE ทั้ง 2 อาคาร ได้แก่ อาคารสำนักงานภิรัชทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์ มีอัตราการเช่าพื้นที่ 92% และอาคารภิรัชทาวเวอร์ แอท ไบเทค ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ BITEC Mixed-Use Complex มีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ย 94% ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีสะท้อนถึงความต้องการเช่าพื้นที่สำนักงานในย่านใจกลางเมืองที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง และกองทรัสต์สามารถทำกำไรสุทธิช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ 139.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.87% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 93.68 ล้านบาท สืบเนื่องหลักจากผลประกอบการที่ได้มาจากการเข้าลงทุนในอาคารภิรัชทาวเวอร์ แอท ไบเทค และสามารถอ่านข้อมูลของ BOFFICE เพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ https://www.bofficereit.com