"ชวน" กรีดบางคนไม่ได้ดั่งใจออกมาโวยวาย ยันทำขัดต่อระเบียบ-คำวินิจฉัยรธน.ไม่ได้ "ปชป."วอนสมาชิกรัฐสภาร่วมกันฟังเหตุผลร่างรธน.ก่อนตั้งธงคว่ำทุกฉบับ "ราเมศ" ซัดกลับ "ชูศักดิ์-ก้าวไกล" ไม่สมราคา แจงเหตุปธ.รัฐสภาไม่บรรจุเพราะยกร่างรธน.ใหม่ทั้งฉบับขัดคำสั่งศาลรธน. อย่าบิดเบือนใส่ร้าย "ชวน" ยันยึดรธน -ข้อบังคับ ส่วน"จตุพร" ปลุกมวลชนร่วมทัพ "สามัคคีประชาชน" ไล่"บิ๊กตู่" หน้าทำเนียบฯ 24 มิ.ย. ดักคอรบ.ขี้ขลาดเตรียมขนตู้คอนเทเนอร์ปิดถนน ขณะที่"บช.น."เตรียมกำลังรับมือม็อบ เผย"พรก.ฉุกเฉิน"ฟันแล้ว 150 คดี "บิ๊กป้อม" ยันยังไม่มีปรับครม. ปัดเชื่อมโยงเปลี่ยน "เลขาฯพรรค" โบ้ยให้ถาม "ธรรมนัส"พปชร.กวาดส.ส. 200 ที่นั่ง
ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.64 นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และนางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้เดินทางไปตรวจห้องประชุมพระสุริยันต์ เพื่อตรียมความพร้อมการประชุมร่วมรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ (22 มิ.ย.)และเตรียมการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีการประชุมวันที่ 23-24 มิ.ย.รวม 13 ฉบับ
นายชวน กล่าวถึงกรณีไม่สามารถบรรจุญัตติแก้ไขรัฐธรรมมาตรา 256 ในการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส. ร.) ว่า เคารพความเห็นของทุกคน แต่ประธานมีหน้าที่ทำตามข้อบังคับและกฎหมายโดยเคร่งครัดว่าอะไรที่บรรจุได้ อะไรที่บรรจุไม่ได้ เพียงแต่บางคนอาจจะไม่ได้ดั่งใจ จึงออกมาโวยวาย แต่โดยทั่วไปมีระบบอยู่แล้ว ประธานจะทำเป็นอย่างอื่นไม่ได้
"สมมติว่า ขัดต่อระเบียบและคำวินิจฉัยของรัฐธรรม จะไปทำอย่างอื่นไม่ได้ ทุกอย่างอยู่ในกติกา กฎเกณฑ์โดยเคร่งครัด โดยสุจริตและเปิดเผยไม่มีอะไรที่เป็นลับลมคมใน และไม่มีใครมายุ่งหรือสั่ง ไม่ว่ารัฐบาลหรือใคร ซึ่งจะเป็นว่าบางครั้งอาจจะมีบางญัตติที่ไม่ตรงใจรัฐบาลด้วยซ้ำ เช่นญัตติอภิปรายเรื่งการถวายสัตย์ฯ รัฐบาลเห็นว่า ไม่ควรบรจุ แต่ผมก็บรรจุ เพราะเห็นว่าเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้วินิจฉัย เป็นแค่ให้ความเห็นเท่านั้น ดังนั้นยืนยันทุกอย่างตรงไปตรงมา ขอย้ำว่าประธานฯไม่มีสิทธิ์ทำอะไรที่ละเมิดกฎเกณฑ์ ส่วนญัตติดังกล่าวถือว่าตกไปหรือไม่นั้น ยังไม่วินิจฉัยในเรื่องนี้"
ด้าน นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ว่าด้วยการออกเสียงประชามติในวันพรุ่งนี้ (22 มิ.ย.) ว่า พรรคสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ประชามติชัดเจนอยู่แล้ว ส่วนการแก้ไขเพิ่มเติม รัฐ ธรรมนูญที่ร่วมกันยื่น 8 ร่าง ทั้ง 3 พรรค คือ ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย และชาติไทยพัฒน คงไม่มีปัญหาและเห็นชอบในวาระที่ 1 ส่วนร่างฉบับอื่นๆ ทางพรรคจะมีการประชุมหารือเวลา 13:30 น. แต่ขอเรียกร้องสมาชิกรัฐสภาทุกคนว่าอย่าเพิ่งออกมาประกาศว่าจะคว่ำร่างรัฐธรรมนูญทุกฉบับ เพราะอย่างน้อย ควรฟังการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภาถึงเหตุผลที่ดีของแต่ละฉบับ แต่ละพรรค มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะมาตรา 272 ดังนั้นทุกมติ ทุกการกระทำของสมาชิกรัฐสภาทุกคนจะต้องร่วมกันรับผิดชอบในการกระทำของตัวเองทั้งสิ้น ซึ่งพรรคไม่สามารถไปบีบบัง คับหรือไปสั่งให้สมาชิกรัฐสภาคนใดเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบได้ หรือไปท้ากันว่า ถ้าไม่เห็นชอบ ตามมาตรา 272 หรือคว่ำร่างของพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) อันนี้ก็ไม่ถูกต้อง ฉะนั้นตนคิดว่า เวลาจะเป็นคำตอบว่าแต่ละพรรคมีความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดังนั้นถ้าต้องการให้ร่างฉบับปัจจุบันเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น ไม่เหลือบ่ากว่าแรต้องการให้เดินไปข้างหน้าตามครรลองกระบวนการของประชาธิปไตยก็ต้องร่วมกันพิจารณา
นายราเมศ ยังกล่าวตอบโต้กรณีที่ นายชูศักดิ์ ศิรินิล จากพรรคเพื่อไทย และเลขาธิการพรรคก้าวไกล ออกมากล่าวหานายชวนไม่บรรจุญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับที่ให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ทั้งฉบับว่า ยืนยันการทำหน้าที่ของนายชวน ยึดรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับอย่างเคร่งครัด เป็นกลาง ตรงไปตรงมาให้เกียรติและเคารพ ทุกคน การจะมากล่าวหา ว่าขัดขวางการแก้รัฐธรรมนูญของประชาชน เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง นายชูศักดิ์เป็นถึงครูบาอาจารย์ต้องย้อนกลับไปดูหลักการรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับให้ชัด รวมไปถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรม นูญที่ 4/2564 ประกอบด้วย ไม่ใช่คิดจะทำตามอำเภอใจตนโดยไม่มีหลัก พอไม่ได้ดั่งใจก็ออกมาโวยวายไม่สมรา คาของฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรเลย เนื่องจากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่) ของนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ เป็นการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่ใช่ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมรายมา ตราตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยไว้แต่ต้องการยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 60 หากรัฐสภาต้องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องจัดให้ประชาชนออกเสียงประชามติเสียก่อนว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ถ้าผลการออกเสียงประชามติเห็นชอบด้วย จึงดำเนินการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
"หยุดให้ร้ายนายชวนที่พรรคเพื่อไทยใช้ถ้อยคำว่า "อย่าทิ้งภาระให้ลูกหลาน ประธานสภาอย่าขัดขวางรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน" ล้วนแล้วแต่บิดเบือน คนอย่างนายชวนมีแต่คิดและทำสิ่งดีๆให้ลูกหลาน คนรุ่นหลังมากมาย หากพรรคเพื่อไทยฉลาดคิดและจดจำคงไม่มีการใช้ถ้อยคำที่บิดเบือนแบบนี้ แต่สิ่งสำคัญนายชวนไม่เคยทิ้งภาระหนี้สินที่เกิดจากการโกงชาติบ้านเมืองไว้ให้ลูกหลาน และรัฐธรรมนูญฉบับนี้นายชวนไม่รับมาตั้งแต้ต้น หากฝ่ายค้านนำเสนอถูกต้องตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับไม่มีใครขวางได้แน่นอน ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา"
ขณะที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวบนเวทีอภิปรายออนไลน์ "ไทยไม่ทน คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย" โดยระบุถึงการเคลื่อนไหวขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ ว่า ตลอดการเคลื่อนไหวชุมนุมของคณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา จนถึงการไปปักหมุดยื่นหนังสือถึงองค์กรต่างๆ และภาคการเมือง รวมถึงทำเนียบรัฐบาลไปมาแล้ว 3 รอบ โดยวันที่ 22 มิ.ย.นี้ คณะของเราจะเดินทางไปยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์เป็นรอบที่ 4 ทั้งนี้ขอย้ำว่าการเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ออกจากตำแหน่งนั้น ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เพราะประเทศนี้ได้ให้โอกาส พล.อ.ประยุทธ์มากว่า 7 ปี ประกาศสิ่งที่สวยหรู และทุกคำทุกวาจา ล้วนแต่สะบัดสัตย์ ทำให้คนไทยต้องพบกับความจดจำที่ลมๆแล้งๆ อีกทั้ง รัฐบาลไม่ได้มีความซื่อสัตย์สุจริต แต่ไม่มีวี่แววว่าพล.อ.ประยุทธ์จะไป มิหนำซ้ำอาจอยู่ยาวนานที่สุด ตั้งแต่ประเทศไทยมีนายกฯมา ทั้งที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาใดๆได้เลย
นายจตุพร กล่าวต่อว่า ด้วยพฤติกรรมและพฤติการณ์ทั้งหมดนั้น เราจะไปลำดับความกันที่ทำเนียบฯ โดยในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ จะไปยื่นหนังสือเป็นคำรบ 4 เพื่อจะได้นัดหมายกันว่า เราจะนัดเจอกันอย่างไร เพราะอย่างที่ทราบกันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมวางตู้คอนเทนเนอร์ และเอาลวดหนามขึงทำเนียบรัฐบาล ทั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์และเครือข่ายน่าจะรู้ดีว่าพวกตนไม่เข้าไปยึดในทำเนียบรัฐบาล เพราะไม่มีความหมายใดๆ แต่คนที่ขี้ขลาด ก็จะต้องป้องกันตั้งแต่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ แยกนางเลิ้ง มุมต่างๆ รวมกระทั่งแยกมิสกวัน ไม่ให้ใครเข้าไปที่ทำเนียบฯ แล้วถ้าเขาคิดว่านี่คือชัยชนะ ตนบอกว่ายิ่งเขาแสดงความขี้ขลาดตาขาวมากเท่าไหร่ เขาก็จะยิ่งพ่ายแพ้มากเท่านั้น
"วันที่ 24 มิ.ย.นี้ ขอให้ประชาชนออกแบบชีวิตกันมาเตรียมหน้ากาก เจลแอลกอฮอล์ พกน้ำดื่มมา เตรียมอุปกรณ์ผ้าเย็นไว้ซับหน้า แต่ผมเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาในเรื่องการกระทบกระทั่ง เพราะเราจะใช้แนวทางสันติวิธี ผมขอเชิญชวนพี่น้อง ไม่ว่าท่านจะอยู่ภูมิภาคใด วันที่ 24 มิ.ย.นี้ ร่วมสำแดงอนาคตกัน เราต้องร่วมในการเปลี่ยนแปลง ไม่สู้ก็ไม่มีวันที่จะโงหัวขึ้นมาได้"
พร้อมกันนี้ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. กล่าวว่ยืนยันว่า กทม.เป็นพื้นที่ประกาศ ห้ามชุมนุม ทำกิจกรรม มั่วสุม กระทำการเกิดการยุยงในพื้นที่กทม. ตาม ม.9 พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หากฝ่าฝืน จะมีความผิด ผู้ชักชวนก็จะมีความผิดสนับสนุน อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมความพร้อมไว้แล้วในการดูแลการชุมนุมทุกสถานการณ์
"ตั้งแต่ เตือนก.ค.63 ได้ดำเนินคดีไปแล้ว 150 คดี มีผู้ต้องหา 150 คน โดยเป็นการดำเนินคดีตามพยานหลักฐาน โดยเฉพาะผู้ยุยงปลุกปั่นในโลกโซเซี่ยลมรเดียก็ต้องถูกดำเนินคดี"
วันเดียวกัน ที่ทำเนียบฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์กรณีเดินทางไปจ.ขอนแก่น แต่ไม่เข้าร่วมประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคพลังประชารัฐ ที่ผ่านมาว่า ตนไปลาออก เมื่อถามถึงการเปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรคเป็น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะทำให้ชนะเลือกตั้งในครั้งหน้าใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เหตุการณ์ข้างหน้ายังไม่รู้ ส่วนกรณีร.อ.ธรรมนัสระบุการเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้ ส.ส. 200 เสียงนั้น ก็ไปถามเลขาฯ คนใหม่
เมื่อถามย้ำว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคพลังประชารัฐจะเป็นพรรคอันดับหนึ่งใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ไม่ต้องคำถามดังกล่าว เพียงแต่หัวเราะในลำคอ ผู้สื่อข่าวถามว่า คนที่เป็นเลขาธิการพรรคต้องขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่เกี่ยว เรื่องรัฐมนตรีกับเรื่องพรรคการเมืองเป็นคนละเรื่องกัน คนที่เป็นรัฐมนตรีเป็นคนที่มีความสามารถไปทำงานให้กับประชาชน เมื่อถามย้ำว่า ยังไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีหรอก
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีที่ร.อ.ธรรมนัสมาเป็นเลขาธิการพรรคว่า ก็เป็นเรื่องที่สมาชิกเขาเลือก ตนจะไปรู้ได้อย่างไรว่าใครจะได้ ส่วนการทำงานมันก็คล่องตัวทั้งนั้น ไม่ว่าใครก็ทำงานให้พรรค อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ได้มอบนโยบายให้กับกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่ และวันเดียวกันนี้ที่มีการประชุมส.ส.พรรคเพื่อเตรียมพร้อมก่อนประชุมร่วมรัฐสภาฯ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 22-24 มิ.ย.นี้ ตนไม่ได้เข้าร่วมเพราะมีประชุม
เมื่อถามว่า จะให้นโยบายสมาชิกพรรคเกี่ยวกับการแก้รัฐธรรมนูญอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องส.ส. ส่วนแนวทางพรรคจะเป็นอย่างไรนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ประชุม สำหรับกรณี นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. ออกมาระบุการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคการเมืองเป็นเพื่อประโยชน์ตัวเองนั้น "ประโยชน์อะไร ผมไม่รู้ ก็ต้องถามว่าประโยชน์อะไร ทุกคนก็ทำงานให้กับประชาชนทุกพรรคการเมืองก็หวังทำประโยชน์ให้ประชาชน ทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าให้มีความเจริญทั้งนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ส.ว.ออกมาติงตั้งแต่ต้นเช่นนี้จะส่งผลต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีหรอก ก็ต้องดูตามเสียงที่รัฐธรรมนูญกำหนด ถ้าเสียงมากก็ได้เสียงน้อยก็ไม่ได้ก็ว่าไป