เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงถึงการผ่อนคลายมาตรการที่มีผลบังคับใช้วันที่ 21 มิ.ย.เป็นวันแรก ว่า ในส่วนของสถานบันเทิง ผับ บาร์ ยังปิดทุกระดับสี แต่สัปดาห์ที่ผ่านมาผู้ประกอบการสถานบันเทิง ผู้จำหน่ายแอลกอฮอล์ได้ยื่นเรื่องต่อ ศบค. ซึ่งเราได้รับเรื่องและเห็นใจ แต่อยากเรียนว่าการติดเชื้ออยู่ที่คน หากมีลูกค้าเข้าไปในสถานบริการและดื่มแอลกอฮอล์อาจเป็นเหตุให้การควบคุมพฤติกรรมแย่ลง ความยับยั้งชั่งใจลดลง อาจกลายเป็นความเสี่ยงในการติดเชื้อ จึงต้องฝากผู้ประกอบการว่า ท่านอาจต้องเสนอมาว่าจะมีมาตรการดูแลอย่างไรให้ลูกค้าที่เข้าไปปลอดภัย ปฏิบัติมาตรการได้อย่างเข้มงวด และเพื่อความปลอดภัยของบุคลากรของท่านเองด้วย พญ.อภิสมัย กล่าวทิ้งท้ายว่า สิ่งที่สำคัญต้องการเน้นย้ำคือเรื่องกิจการรวมกลุ่มทั้งครอบครัว ชุมชน เพื่อนฝูง ซึ่งทางกรมควบคุมโรคเน้นเรื่องการสังสรรค์ทั้งคนใกล้ชิด คนในครอบครัว หรือแม้แต่ที่ทำงาน เพราะในการสอบสวนโรคยังพบว่ามีการรับประทานอาหารร่วมกัน หรือแม้แต่คนขับรถในบริษัทที่อาจจะต้องรับพนักงานหลายๆกลุ่ม ด้วยความเป็นคนที่รู้จักใกล้ชิดกันอาจทำให้เกิดการติดเชื้อโดยง่าย โดยที่เราไม่ได้ระมัดระวังตัวดังนั้นจึงขอเน้นย้ำว่าให้สวมหน้ากากอนามัยอยู่ตลอดเวลา เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ และสิ่งที่สำคัญคือการเคลื่อนย้ายของคน แรงงาน ในสถานประกอบการ บุคคลทั่วไปที่เดินทางข้ามพื้นที่ ข้ามจังหวัด ไม่ว่าจะเดินทางไปพักผ่อนหรือไปสังสรร ไปเยี่ยมครอบครัว เยี่ยมเพื่อนฝูง ซึ่งในระยะนี้มีรายงานเป็นจำนวนมาก กับการที่ทำให้เกิดการติดเชื้อกระจายจากจังหวัดหนึ่งไปอีกจังหวัดหนึ่ง หรือแม้แต่แรงงาน เช่น ช่างที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ช่างปูน ช่างฉาบ ที่อาจจะทำงานในไซด์ก่อสร้างหลายแห่ง หรือรับทำงานบ้านลูกค้าเป็นการส่วนตัวอีก ซึ่งเกิดการแพร่เชื้อที่ควบคุมค่อนข้างยาก ดังนั้นขอฝากทุกคนให้ช่วยเฝ้าระมัดระวัง และสิ่งสำคัญคือที่ประชุมอีโอซี สธ.และศบค.ชุดเล็ก เป็นห่วงมากคือการรองรับโดยระบบสาธารณสุขของบ้านเราในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาที่มีรายงานผู้ติดเชื้อจำนวนหลายพันคน ตอนนี้ที่เป็นห่วงที่สุดคือบุคลากรทางการแพทย์ ที่โยกกันมาจากต่างจังหวัด เพื่อช่วยกันในหลายพื้นที่ซึ่งต้องขอเรียนว่าบุคลากรอาจอ่อนล้า และถ้ายอดผู้ติดเชื้อไม่ลดลงระบบสาธารณสุขในตอนนี้ถือว่าตึงเครียดและบุคลากรเองยังมีความสำคัญที่เราจะต้องดูแลเขาด้วย