วันที่ 21 มิ.ย.64 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยออกมาท้าให้นายกฯลาออกหากคะแนนนิยมดี หรือให้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ พร้อมกับคาดการณ์ว่า จะมีปรับ ครม.หลังเปลี่ยน เลขาฯพปชร. ระบุว่า นายกฯได้ยืนยันไปแล้วว่า จะอยู่จนครบเทอมของรัฐบาล ซึ่งตนเองก็มองว่า เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมานายกฯไม่ได้ทำอะไรผิด อีกทั้งยังทำงานแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนอยู่ โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศกำลังเกิดวิกฤตจากโควิด-19
ส่วนการปรับโครงสร้างพรรคพลังประชารัฐ ถือเป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคยังยืนยันแล้วว่าไม่มีแรงกระเพื่อม และไม่เกี่ยวข้องกับการปรับ ครม. ซึ่งนายอนุสรณ์ไม่ควรที่จะคิดไปเอง เรื่องในพรรคตนเองยังเอาตัวไม่รอด อย่าได้เที่ยวมาก้าวก่ายพรรคคนอื่น นิสัยขี้อิจฉาริษยามากกว่า
ขณะที่การปูพรมฉีดวัคซีนให้กับประชาชนนั้น นายเสกสกล ย้ำว่า ขณะนี้มีวัคซีนทยอยเข้ามาแล้ว ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมมือร่วมใจกันเพื่อให้การฉีดวัคซีนเป็นไปตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ และขณะนี้ไทยยังฉีดวัคซีนได้มากเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน ก็เป็นการทำให้เห็นว่าจะสามารถทำได้ให้ทันกับการเปิดประเทศ 120 วัน ซึ่งขณะนี้ได้นำร่องที่จังหวัดภูเก็ตที่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้วเข้ามาในวันที่ 1 ก.ค. อีกทั้งนายกฯยังได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อวิ่งไปให้ถึงเส้นชัย คือเป้าหมาย 120 วันให้ได้
การที่นายอนุสรณ์ออกมาเรียกร้องให้นายกฯยุบสภาหรือลาออกนั้นก็เพื่อหวังผลทางการเมืองของพรรคตัวเองเพื่ออยากกลับมามีอำนาจรัฐเท่านั้น วันๆคิดถึงแต่ตัวเองไม่คิดถึงประชาชนว่ามีความเดือดร้อนมากน้อยแค่ไหน ทางที่ดีขอให้พรรคเพื่อไทยสู้กันตามกระบวนการจะดีกว่า รอการเลือกตั้งครั้งหน้า อย่ามาตีเนียน หรือตีกินทางการเมืองในช่วงนี้
“คนอย่างนายอนุสรณ์ ปากไม่มีหูรูด มีหัวไว้เพียงให้ผมงอก หรือมีหัวไว้เพียงคั่นหู ไม่ได้เอาหัวไว้คิดให้มีเนื้อหาสาระอะไรได้เลย วันๆมีแต่แกว่งปากหาเสี้ยน คนนิสัยประเภทนี้ออกมาพูดพล่อยๆพล่ามๆไปวันๆน้ำลายฟูมปาก ยิ่งแต่จะทำให้พรรคเพื่อไทยตกต่ำไปเรื่อยๆ และผมก็ทำนายทายทักมาก่อนหน้านี้หลายหนว่า นายอนุสรณ์นี่แหละ จะทำให้คนในพรรคแตกแยกเละตุ้มเป๊ะ เพราะนายอนุสรณ์พูดมากเกินไป พูดโดยผู้ใหญ่ในพรรคไม่ได้สั่ง พูดมากเกินหน้าที่ ทำเป็นอวดรู้อวดตนว่าเก่ง ทั้งที่ประสบการณ์การเมืองก็น้อยนิด ไม่เคยเป็นสส.เข้าสภาแม้แต่สมัยเดียว ทำเป็นอยากโชว์บทบาทเอาใจนายใหญ่ เพื่อหวังรางวัลตอบแทนหรือเปล่า จนทำให้ประชาชนเบื่อหน่าย
และก็เป็นจริงตามที่ผมทายไว้ ไม่ว่า คุณหญิงหน่อยสุดารัตน์และแกนนำในพรรคทยอยลาออกไปเรื่อยๆ จนจะเหลือแต่พวกตัวเล็กตัวน้อยพูดจ้อรายวันเช่น นายอนุสรณ์ ที่ยังคงทำให้พรรคเพื่อไทย เสื่อมเสียภาพพจน์ในสายตาประชาชน ซึ่งผมเคยเตือนนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคมาแล้วว่า ระวังนายอนุสรณ์จะทำให้พรรคตกต่ำเสียหาย หรืออาจจะมีใครวางแผนส่งมาคอยทำลายพรรคเพื่อไทยหรือเปล่า แต่นายสมพงษ์ไม่เชื่อตนเอง ในที่สุดสิ่งที่ผมเตือนก็เริ่มเป็นจริง สภาพพรรคเพื่อไทยทุกวันนี้แทบจะไม่เหลือความเชื่อมั่นและไว้วางใจในสายตาประชาชนและสมาชิกพรรคเลย” นายเสกสกล กล่าว