จากสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้ ประกอบกับที่รัฐบาลได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร โดยมีข้อกำหนดตามกรอบพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 เป็นต้นมา และศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้พิจารณาให้ระงับการใช้ช่องทางการเข้าออกประเทศในทุกพื้นที่ที่มีเขตติดต่อชายแดน เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด–19 มาจนถึงปัจจุบัน
ศูนย์ปฏิบัติการ กองทัพภาคที่ 3 ได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจเกิดจากการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าวได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการบูรณาการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าภูเขาและบางแห่งยากลำบากแก่การเข้าถึงด้วยยานพาหนะ เป็นไปอย่างเข้มข้น ศูนย์ปฏิบัติการ กองทัพภาคที่ 3 โดยกองกำลังนเรศวร และกองกำลังผาเมือง จึงได้ริเริ่มนำสัตว์บรรทุกต่าง (ม้า และ ล่อ) มาเป็นพาหนะ ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มระยะทาง และดำรงระยะเวลาได้ต่อเนื่องในการลาดตระเวน และเฝ้าตรวจ อีกทั้งเพิ่มทัศนวิสัยการตรวจการณ์ ในพื้นที่ตามแนวชายแดน ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ที่มีเจตนารมณ์ให้กองกำลังป้องกันชายแดน ได้ดำเนินการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจพื้นที่ตามแนวชายแดนอย่างเข้มข้น เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่า ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 พร้อมที่จะบูรณาการกำลังป้องกันชายแดนเพื่อปกป้องอธิปไตย และพิทักษ์ผลประโยชน์ของชาติ เพื่อให้พี่น้องคนไทยทุกคนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งสร้างความมั่นคงให้ประเทศชาติ