เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.64 พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษ พรรคเพื่อไทย อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า มั่นใจว่า หากรัฐบาลประชาธิปไตยที่ถูกรัฐบาลสืบทอดอำนาจปล้นชัยชนะไป ได้มาเป็นฝ่ายบริหารแทนประชาชนจะได้รับวัคซีนไปตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมาแล้ว ป่านนี้ก็ฉีดเข็มสองใกล้ครบถ้วน จนได้เปิดประเทศส่วนใหญ่กันไปแล้ว แต่เพราะบาปกรรมที่ฝังลึกอยู่ในตัวกลุ่มคนแกนนำ ซึ่งอยู่เบื้องหลังการปราบปรามประชาชนจนเสียชีวิต 99 ศพ เมื่อปี 53 แล้วต่อท่อมาเป็นรัฐบาลสืบทอดอำนาจ บาปกรรมนั้นจึงออกฤทธิ์บดบังให้บอดวิสัยทัศน์จนหาวัคซีนล่าช้าไม่ทันการณ์ เป็นเหตุให้ประชาชนต้องเสียชีวิตรายวันนับสิบๆ คนเช่นนี้ นี่ไม่ต้องนับถึงการจัดระเบียบข้อมูลโควิดของบรรดาคุณหมอที่ออกมาสื่ออย่างกระจัดกระจายให้มารวมอยู่ที่ ศบค. เพื่อความสะดวกของประชาชนในการเสาะหาข้อมูลก็ยังทำไม่เป็นเลย “กลุ่มคนบาปเสมือนปีศาจ เข้าที่ไหนต้องก่อเหตุให้คนตายที่นั่น เชื่อว่ากรรมเวรมีจริง ดังนั้นพอนายกรัฐมนตรีสืบทอดอำนาจประกาศจะนำพาเปิดประเทศใน 120 วัน ดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตอันมีเหตุมาจากความอำมหิตของกลุ่มคนบาป จึงได้ตามมาเอาคืนด้วยการนำพาให้ประชาชนชวนคิดสวนทางไปว่า รัฐบาลกำลังนับถอยหลังรอพังพาบแทนการเปิดประเทศ ซึ่งสอดรับกับการออมกำลังเพื่อเตรียมความพร้อมของกลุ่มเยาวชน คนรุ่นใหม่ และกลุ่มราษฎรต่างๆ ซึ่งพวกเขาได้ดำเนินการควบคู่ไปกับช่วงเวลาที่ยังมีการแพร่ระบาดของโควิด แต่เมื่อใดที่สถานการณ์โควิดเบาบางลง กงล้อประวัติศาสตร์ก็จะหมุนมาซ้ำรอย ประชาชนจะลุกฮือออกมาขับไล่นายกฯด้วยกลยุทธ์แบบทิ้งหมัดเดียวน็อกคาเวที ตามด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะถูกบังคับวิถีโดยประชาชนเหมือนเช่นในอดีต” พล.ท.ภราดรกล่าว