เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 มิถุนายน นายแพทย์นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมา ชี้แจงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ 32 อำเภอ ของ จ.นครราชสีมา ว่า พบผู้ป่วยระลอกใหม่ 7 ราย ทั้งหมดมีประวัติเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงและสัมผัสกับผู้ป่วย อยู่ในพื้นที่ อ.เมือง 4 ราย อ.โนนสูง 5 ราย อ.จักราช 1 ราย และ อ.สูงเนิน 1 ราย รวมยอดสะสม 1,036 ราย รักษาหาย 923 ราย ยังรักษาอยู่ 99 ราย และเสียชีวิต 14 ราย ทั้งนี้ของแสดงความเสียใจกับญาติของผู้ป่วยรายที่ 993 ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 14 ของ จ.นครราชสีมา เป็นหญิงไทยอายุ 70 ปี ภูมิลำเนาเดิม จ.ร้อยเอ็ด ประกอบอาชีพขายอาหารย่านเพชรเกษม 88 เขตบางแค กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงสูง วันที่ 1-10 มิย. ผู้ป่วยอาศัยอยู่กับลูกชายเปิดร้านขายอาหารและพักห้องเช่ากับลูกชาย กินข้าวร่วมกันทุกวัน วันที่ 11 มิย. ผู้ป่วยมีไข้ ไม่สบาย ลูกชายพาไปพบแพทย์ที่คลินิกหมอเชาว์ เขตบางแค กทม. แพทย์วินิจฉัยหลอดลมอักเสบให้ยาและกลับมาพักรักษาที่ห้องพัก โดยมีลูกชายคอยดูแล วันที่ 13 มิย. ช่วงเช้าอาการไม่ดีขึ้น ไข้ เหนื่อยเพลีย ลูกชายพาไปพบแพทย์ที่คลินิกหมอพรรณศักดิ์ เขตบางแค กทม. แพทย์ให้น้ำเกลือ ให้ยาและให้กลับบ้าน ช่วงเย็นอาการทรุดลง นอนไม่หลับ ลูกชายตั้งใจพาผู้ป่วยกลับภูมิลำเนา ที่ จ.ร้อยเอ็ด เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่พักไม่เอื้ออำนวย วันที่ 14 มิย. เวลา 12.00 น. ผู้ป่วยและลูกชายเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ระหว่างเดินทาง ผู้ป่วยมีอาการไข้ หอบเหนื่อย เพ้อ ลูกชายจึงพาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ซึ่งเป็นที่แผนกฉุกเฉิน รพ.เซนต์เมรี่ นครราชสีมา ด้วยอาการไข้หอบเหนื่อย ออกชิเจนในเลือดต่ำมาก ลูกชายได้ตะโกนบอกเจ้าหน้าที่ว่าเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง กทม. และขอให้ช่วยรักษาผู้ป่วยด้วย เนื่องจากอาการหอบหนักขึ้น เจ้าหน้าที่รับผู้ป่วยเข้าห้องแยกโรค แพทย์ประเมินอาการและให้การรักษาเบื้องต้น ทุกคนสวมชุดป้องกันและประสานส่งต่อ รพ.มหาราช นครราชสีมา ด้วยแคปซูลเคลื่อนย้ายผู้ป่วยความดันลบ วันที่ 15 มิย. ผลตรวจยืนยันติดเชื้อและแจ้งให้ลูกชายซึ่งนอนรออยู่ในรถตลอดคืนทราบ จึงตรวจหาเชื้อและขอเดินทางกลับไปกักตัวที่ภูมิลำเนา จ.ร้อยเอ็ด ผลยืนยันติดเชื้อ เนื่องจากผู้ป่วยสูงอายุ มีโรคประจำตัว เบาหวานและความดันโลหิตสูง อาการจึงทรุดหนักและเสียชีวิตด้วยภาวะปอดอักเสบรุนแรง เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (19 มิย.) ทั้งนี้ที่ห้องเก็บศพ รพ.มหาราช มีเพียงหลานผู้เสียชีวิตมาติดต่อขอรับศพยายไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ส่วนลูกชายอยู่ระหว่างรักษาอาการป่วยที่ รพ.ร้อยเอ็ด ซึ่งอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฮุก.31 นครราชสีมา ได้บริการเคลื่อนย้ายร่างไปประกอบพิธีประชุมเพลิงกำหนดช่วงบ่ายวันนี้ ที่วัดคลองส่งน้ำ ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด