เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 64 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. พ.ต.อ.มนตรี เทศขัน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป. พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5 บก.ป. พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.ปิยพล แป้นแก้ว พ.ต.ท.วริศร มัจฉา พ.ต.ต.อภิชาติ อินยอด สว.กก.6 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. พร้อมตำรวจกองปราบปรามจับกุมตัว ส.อ.ภัชชระ สาระอาภรณ์ เจ้าหน้าที่ทหารสังกัดหนึ่งในพื้นที่ภาคใต้ หลังร่วมกับแก๊งอดีตตำรวจอุ้มคนเรียกค่าไถ่ตามใบสั่งพ่อค้ายา โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ บริเวณหน้าบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.บ้านควน อ.เมืองสตูล จ.สตูล
สืบเนื่องจาก ส.อ.ภัชชระ ผู้ต้องหาชุดอุ้มที่ถูกกองปราบปราม จับกุมไปก่อนหน้านี้ทั้ง 4 ราย ได้ให้การซัดทอดว่ายังมี ส.อ.ภัชชระ ร่วมก่อเหตุด้วยอีกราย เมื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ และพยานหลักฐานอื่นๆ จึงพบว่า ส.อ.ภัชชระ มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวจริง หลังเป็นผู้ขับรถยนต์ไปดูลาดเลาในรีสอร์ทที่ผู้เสียหายพักซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุแรกก่อนจะร่วมกับพวกลงไปก่อเหตุ แล้วแยกย้ายหลบหนีไปเพียงลำพัง จึงเร่งรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ ก่อนสามารถติดตามไปจับกุมตัวพร้อมกับรถยนต์ของกลางได้ที่หน้าบ้านพัก
จากการสอบสวน ส.อ.ภัชชระ ให้การปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการเรียกค่าไถ่แต่อย่างใด อ้างว่าก่อนเกิดเหตุได้รับการติดต่อจากนายอรรถพนธ์ หรือเอก เดชะ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาหัวโจกอดีตตำรวจที่โดนจับตัวไปหน้านี้ โดยนายเอก เป็นเพื่อนสนิทตนได้ขอให้ช่วยสืบหาลูกหนี้ซึ่งก็คือผู้เสียหาย เพื่อตามหาตัวก็เท่านั้น พร้อมกับแสดงความบริสุทธิ์ใจให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ นำพาชี้จุดเกิดเหตุต่างๆ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาตามหมายจับก่อนนำตัว รถยนต์ของกลาง ส่ง สภ.สิงหนคร ภ.จว.สงขลา ดำเนินคดี
คดีนี้เริ่มต้นเมื่อตำรวจกองปราบนำกำลังบุกช่วยเหลือนายจาฎพันธุ์ เจนจริยานนท์ และนายรุสดี ปูเต๊ะ สองตัวประกันที่ถูกแก๊งทวงหนี้โหดอุ้มตัวไปกักขังภายในบ้านเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ทำนบ อ.สิงหนคร จ.สงขลา เพื่อเรียกค่าไถ่ 2 ล้านบาท แลกกับการปล่อยตัวพร้อมกับจับกุมตัวนายอรรถพนธ์ หรือเอก เดชะ อายุ 33 ปี นายนายอภิสิทธิ์ หรือเจ นิคม อายุ 26 ปี นายสุทธิรักษ์ หรือบ่าว บริรักษ์ อายุ 25 ปี และนายสิทธิพงษ์ หรือบอย บุญสง อายุ 26 ปี 4 ผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุได้ สอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ให้การซัดทอดว่า ได้รับว่าจ้างจากนายทุนยาเสพติด ให้มาอุ้มตัวผู้เสียหายโดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร ยศ ส.อ. สังกัดหนึ่งในภาคใต้ร่วมอยู่ด้วยในขบวนการ
สืบเนื่องจาก ส.อ.ภัชชระ ผู้ต้องหาชุดอุ้มที่ถูกกองปราบปราม จับกุมไปก่อนหน้านี้ทั้ง 4 ราย ได้ให้การซัดทอดว่ายังมี ส.อ.ภัชชระ ร่วมก่อเหตุด้วยอีกราย เมื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ และพยานหลักฐานอื่นๆ จึงพบว่า ส.อ.ภัชชระ มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวจริง หลังเป็นผู้ขับรถยนต์ไปดูลาดเลาในรีสอร์ทที่ผู้เสียหายพักซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุแรกก่อนจะร่วมกับพวกลงไปก่อเหตุ แล้วแยกย้ายหลบหนีไปเพียงลำพัง จึงเร่งรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ ก่อนสามารถติดตามไปจับกุมตัวพร้อมกับรถยนต์ของกลางได้ที่หน้าบ้านพัก
จากการสอบสวน ส.อ.ภัชชระ ให้การปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการเรียกค่าไถ่แต่อย่างใด อ้างว่าก่อนเกิดเหตุได้รับการติดต่อจากนายอรรถพนธ์ หรือเอก เดชะ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาหัวโจกอดีตตำรวจที่โดนจับตัวไปหน้านี้ โดยนายเอก เป็นเพื่อนสนิทตนได้ขอให้ช่วยสืบหาลูกหนี้ซึ่งก็คือผู้เสียหาย เพื่อตามหาตัวก็เท่านั้น พร้อมกับแสดงความบริสุทธิ์ใจให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ นำพาชี้จุดเกิดเหตุต่างๆ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาตามหมายจับก่อนนำตัว รถยนต์ของกลาง ส่ง สภ.สิงหนคร ภ.จว.สงขลา ดำเนินคดี
คดีนี้เริ่มต้นเมื่อตำรวจกองปราบนำกำลังบุกช่วยเหลือนายจาฎพันธุ์ เจนจริยานนท์ และนายรุสดี ปูเต๊ะ สองตัวประกันที่ถูกแก๊งทวงหนี้โหดอุ้มตัวไปกักขังภายในบ้านเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ทำนบ อ.สิงหนคร จ.สงขลา เพื่อเรียกค่าไถ่ 2 ล้านบาท แลกกับการปล่อยตัวพร้อมกับจับกุมตัวนายอรรถพนธ์ หรือเอก เดชะ อายุ 33 ปี นายนายอภิสิทธิ์ หรือเจ นิคม อายุ 26 ปี นายสุทธิรักษ์ หรือบ่าว บริรักษ์ อายุ 25 ปี และนายสิทธิพงษ์ หรือบอย บุญสง อายุ 26 ปี 4 ผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุได้ สอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ให้การซัดทอดว่า ได้รับว่าจ้างจากนายทุนยาเสพติด ให้มาอุ้มตัวผู้เสียหายโดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร ยศ ส.อ. สังกัดหนึ่งในภาคใต้ร่วมอยู่ด้วยในขบวนการ