ศึกฟุตบอล ยูโร 2020 (กลุ่ม เอฟ)
ฮังการี - ฝรั่งเศส (นัดที่2)
วันเสาร์ที่ 19 มิถุนายน 2564 เวลา : 20.00 น.
สนาม : ปุสกัส อารีน่า, บูดาเปสต์ (ฮังการี)
ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ (อังกฤษ)
เริ่มเกมได้ 5 นาที "ฮังการี" ผนึกกำลังสู้ "ฝรั่งเศส" อย่างสนุก นักเตะวิ่งสู้ฟัด ไล่บี้กดดัน "ฝรั่งเศส" แม้จะเป็นรอง ทั้งชื่อชั้นและความสามารถของตัวนักเตะก็ตาม ทำให้ "ฝรั่งเศส" เล่นเกมอย่างยากลำบาก
ผ่านไป 10 นาที "ฝรั่งเศส" ยังตั้งบอลขึ้นหน้าด้วยความยากลำบาก หลังเจอ "ฮังการี"ไล่แย่งบอลไปทั่วทั้งสนาม กระทั่งเข้าสู่นาที 13 "ฝรั่่งเศส" เริ่มครองบอลได้ บุกเข้าใส่ "ฮังการี" และมีโอกาสยิงประตูจาก "อ็องตวน กรีซมันน์" แต่ยังไม่พ้น "ปีเตอร์ กูลัคซี่" ผู้รักษาประตู "ฮังการี" ที่เซฟไว้ได้ ก่อนกรรมการจะเป่านกหวีดเป็นลูกล้ำหน้า จากนั้น เกมตกเป็นของ "ฝรั่งเศส" อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในนาที 16 "คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้" ได้โหม่งในกรอบเขตโทษ แต่เฉียวเสาไปแบบมีลุ้น
จากนั้น ในนาที 30 "ฝรั่งเศส" พลาดการได้ประตูอย่างที่สุด หลัง "คาริม เบนเซม่า" ยิงจ่อๆ แต่หลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย โดยรูปเกมส่วนใหญ่เป็นของ "ฝรั่งเศส" ที่โหมบุกเข้าใส่ "ฮังการี" อยู่ข้างเดียว แต่ยังเจาะเอาประตูแรกไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ในนาที 46 เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ "ฮังการี" ได้โอกาสสวนกลับ และสามารถยิงประตูออกขึ้นนำ "ฝรั่งเศส" ไปก่อน 1-0 จาก "อัตติล่า ฟิโอล่า" ก่อนจบครึ่งแรก
เริ่มครึ่งหลัง "ฝรั่งเศส" ดาหน้าไล่บี้ "ฮังการี" อย่างหนัก หวังเอาประตูตีเสมอให้ได้ แต่ยังไม่สามารถเจาะแผงรับของฝ่ายตรงข้ามได้ แถมยังถูก "ฮังการี" คอยหาจังหวะสวนกลับสร้างความหวาดเสียวอยู่เป็นระยะ
นาที 60 "ฝรั่งเศส" เกือบได้ประตูตีเสมอจาก ตัวสำรอง "เดมเบอเร่" ที่กดด้วยเท้าขวาบอลพุ่งชนเสาไปอย่างหน้าเสียดาย
กระทั่งเข้าสู้นาที 66 "ฝรั่งเศส" ตามตีเสมอ "ฮังการี"เป็น 1-1 สำเร็จจาก "อ็องตวน กรีซมันน์" หลังยิงสวนทาง "ปีเตอร์ กูลัคซี่" ผู้รักษาประตู "ฮังการี" เข้าไป จากนั้นเกมของทั้ง 2 ทีมเป็นไปอย่างสูสี ผลัดกันรุกและรับอย่างสนุก
กระทั่งเข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของครึ่งหลัง "ฝรั่งเศส" ยังคงดาหน้าบุกเข้าใส่ "ฮังการี" ไม่หยุด เพื่อจะเอาประตูขึ้นนำ โดยนาที 81 "ฝรั่งเศส" พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ จาก "คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้" แต่ยังไม่ผ่าน "ปีเตอร์ กูลัคซี่" ที่ออกแรงทุบลูกยิงออกไปได้ จนเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 4 นาที "ฝรั่งเศส" ยังคงพยายามหาช่องทำประตูขึ้นนำให้ได้ก่อนหมดเวลา แต่ยังคงทำอะไร "ฮังการี" ไม่ได้ จบเกมเสมอกันไป 1-1