น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึง กรณีที่มีกลุ่มนักเรียนผู้ต้องการแสดงออกถึงเสรีภาพความหลากหลายทางเพศในโรงเรียนประมาณ 20 คน รวมตัวกันมาชุมนุมที่กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเรียกร้องจุดยืน ให้สามารถแต่งกายและไว้ทรงผม โดยไม่ระบุเพศสภาพ พร้อมทั้งได้เทสี ฉีดสเปรย์ ลงบนตราเสมาธรรมจักรหน้ากระทรวงศึกษาธิการ และบุกเข้าไปในบริเวณสนามหญ้าในกระทรวง เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.64 ว่า เนื่องจากตนไม่ได้อยู่ที่กระทรวง เพราะมาลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงเรียนที่ได้เปิดเรียนตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา ภายใต้สถานการณ์สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เมื่อได้รับทราบรายงานสถานการณ์ จึงกำชับกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีตัวแทนรับฟังข้อเรียกร้องจากกลุ่มนักเรียนที่มาชุมนุม อย่างประนีประนอม และกำชับไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ การชุมนุมของกลุ่มนักเรียนที่มาไม่ได้มีการประสานงานแจ้งมาก่อนล่วงหน้าแต่อย่างใด กระทรวงเองไม่มีข้อห้ามแต่อย่างใด ถ้าการชุมนุมนั้นอยู่ภายใต้ความถูกต้อง อย่างเช่นเหตุการณ์ที่ตัวแทนกลุ่มปฏิวัติการศึกษาไทย มาแสดงเชิงสัญลักษณ์ โปรยกระดาษระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 และเรียกร้องเรื่องร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก็ไม่ได้มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ เกิดขึ้น แต่เนื่องจากการชุมนุมของกลุ่มนักเรียนครั้งนี้ มีการบุกรุกเข้ามาในสถานที่ราชการ ซึ่งไม่ใช่สถานที่สาธารณะ และยังเป็นเวลานอกราชการ พร้อมทั้งก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถานที่ จึงต้องมีพนักงานรักษาความปลอดภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลความเรียบร้อย โดยตนได้สั่งการให้มีการรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะไม่มีการกระทำรุนแรงใด ๆ กับกลุ่มนักเรียนผู้มาชุมนุม “กระทรวงศึกษาธิการตระหนักถึงสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกทางความคิดเห็นของทุกคนในสังคม ขอให้การแสดงออกเป็นไปด้วยความสงบ และอยู่บนพื้นฐานของการเคารพซึ่งกันและกัน รวมถึงยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ภายใต้การเคารพกฎหมายและไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใด” รมว.ศึกษาธิการกล่าว