เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.64 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. พ.ต.อ.มนตรี เทศขัน พ.ต.อ.มีชัย กำเนิดพรม พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ เดชะพันธ์, พ.ต.ท.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์, พ.ต.ท.พงศกร ตันอารีย์, พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.2 บก.ปปป. ปฏิบัติราชการ กก.3 บก.ป. พ.ต.ต.ณัฐดนัย สีแข่ไตร สว.กก.3 บก.ป. ร.ต.อ.อาธิรัตน์ ทิพย์เจริญ ร.ต.อ.อัครวุฒิ จันทร์เจริญ รอง สว.กก.3 บก.ป. ร่วมกันจับกุม น.ส.พรทิพย์ปภา หรืออ่อนแก้ว อายุ 38 ปี ตามหมายจับ 1.ศาลแขวงดุสิต ที่ จ.216/2563 ลง 5 ส.ค.63 ข้อหาว่า “ฉ้อโกง” ได้ที่คอนโดย่านหนองใหญ่ สุขาภิบาล 1 แขวงและเขตบางแค กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจากเมื่อปี 2559 น.ส.พรทิพย์ปภา (ผู้ต้องหา) ซึ่งเป็นตัวแทนขายประกันชีวิตของบริษัทแห่งหนึ่ง ได้เสนอขายประกันชีวิตให้กับกลุ่มลูกค้ากลุ่มข้าราชการ พ่อค้า และประชาชนทั่วไป ในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยขายเบี้ยประกันแบบรายปี เก็บเบี้ยประกันเป็นเงินสด รายละตั้งแต่ 30,000 –50,000 บาท/คนต่อมาช่วงประมาณปี 2559 ผู้ต้องหาประสบปัญหาทางด้านการเงิน หมุนเงินไม่ทัน จึงได้เสนอขายประกันชีวิตให้กับกลุ่มข้าราชการครูในพื้นที่ จ.ยะลา โดยมีการเปิดคอร์สในลักษณะการอบรมให้ความรู้สำหรับการทำประกันชีวิต โดยมีเหยื่อหลงเชื่อทำประกันชีวิตประมาณ 30 คน แต่ภายหลังจากที่ได้เงินจากผู้เสียหายไปแล้ว ผู้ต้องหากลับนำเงินดังกล่าวไปใช้จ่ายส่วนตัว ไม่นำส่งเข้าบริษัทประกันฯ เมื่อกลุ่มผู้เสียหายทราบเรื่อง จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองยะลา ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมาย
โดยภายหลังจากที่ผู้ต้องหาถูกแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ผู้ต้องหายังคงมีพฤติกรรมหลอกขายประกันชีวิตให้กับเหยื่อในอีกหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ มีผู้เสียหายนับ 100 ราย เข้าเเจ้งความดำเนินคดี ต่อมาเมื่อปี 2560 บริษัทประกันฯ ที่ผู้ต้องหาทำงานอยู่ได้ยกเลิกการเป็นตัวแทนขายประกันของผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องหายังตระเวนขายประกันชีวิตเรื่อยมา โดยยังคงแสดงบัตรตัวแทนประกันที่หมดอายุเเล้วให้กับกลุ่มลูกค้าดู นอกจากนี้ในระหว่างที่ผู้ต้องหาหลบหนี ผู้ต้องหายังได้ก่อเหตุหลอกลวงประชาชนให้เข้าจองห้องพักกับทางคอนโดแห่งหนึ่ง โดยมีการเรียกเก็บค่าส่วนต่างจากการจองห้องพักกับผู้เสียหายรายละประมาณ 10,000 บาท แต่ภายหลังกลับไม่มีการจองห้องพักให้ และมีบางกรณีที่ผู้เสียหายถูกนิติบุคคลของทางคอนโดฟ้องร้องเรียกค่าส่วนกลางพร้อมกับดอกเบี้ยย้อนหลัง อันมีสาเหตุมาจากการกระทำของผู้ต้องหา
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้รับคำสั่งให้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่า ในคดีความผิดเกี่ยวกับชีวิตและทรัพย์สิน เจ้าหน้าที่จึงได้ลงพื้นที่สืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหา โดยสืบทราบว่า ผู้ต้องหาหลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่ คอนโดย่านซอยคลองหนองใหญ่ สุขาภิบาล 1 แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพฯ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบผู้ต้องหาอยู่บริเวณหน้าคอนโดจึงได้ทำการจับกุม นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ดำเนินคดีต่อไป จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตรวจสอบประวัติพบ มีหมายจับ 2. ศาลแขวงดุสิต ที่ 44/2564 ลง 12 มี.ค.64 ข้อหา “ฉ้อโกง” 3. หมายจับศาลจังหวัดยะลา ที่ 239/2559 ลง 17 มิ.ย.59 ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน” และ 4. หมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.96/2560 ลง 5 พ.ค. 60 ข้อหาว่า “ฉ้อโกง”รวมเป็น 4 หมาย