เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ร่วมกับกองทัพอากาศ และกองทัพบก ปฏิบัติการฝนหลวงแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่การเกษตรต่างๆ ที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา ที่ยังคงประสบกับปัญหาภาวะฝนทิ้งช่วงเป็นอย่างมาก และเนื่องด้วยปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ ที่จะลงมาช่วยเหลือปริมาณน้ำในพื้นที่เขตลุ่มน้ำเจ้าพระยานั้น มีปริมาณน้ำต้นทุนค่อนข้างน้อย ในขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็มีความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาดังกล่าว ซึ่งทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เหล่าทัพ และหน่วยงานราชการต่างๆ มีความพยายามที่จะร่วมด้วยช่วยกันในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนกันอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ด้านข้อมูลแผนที่อากาศผิวพื้นของกรมอุตุนิยมวิทยา ณ เวลา 07.00 น. พบว่า ในวันนี้ไม่มีหย่อมความกดอากาศต่ำหรือร่องความกดอากาศต่ำ ปรากฏบริเวณพื้นที่ภาคเหนือตอนบนแล้ว ประกอบกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ก็มีกำลังอ่อนลงอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งจะส่งผลให้มีปริมาณฝนในประเทศไทยค่อนข้างน้อย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีโอกาสที่จะได้รับปริมาณฝนน้อยลงเช่นเดียวกัน เนื่องด้วยลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังอ่อนลง ทำให้ในเรื่องของการพัดพานำความชื้นไปยังพื้นที่แถบดังกล่าวของประเทศค่อนข้างที่จะเป็นไปได้ยากในระดับหนึ่ง สำหรับผลจากการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวานนี้ ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 5 หน่วยปฏิบัติการ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของ จ.เชียงใหม่ ตาก พิจิตร พิษณุโลก บุรีรัมย์ สุรินทร์ ปราจีนบุรี สระแก้ว เพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักในพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เขื่อนแม่มอก และอ่างเก็บน้ำห้วยแม่กองค่าย นายสุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในส่วนของการติดตามสภาพอากาศเพื่อวางแผนการปฏิบัติการฝนหลวงในช่วงเช้าวันนี้ จากผลการตรวจสภาพอากาศจากสถานีเรดาร์ฝนหลวงทั่วประเทศ พบว่า มีบริเวณพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง ในเช้าวันนี้จึงมีการวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 2 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ดังนี้ -หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.อุบลราชธานี มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ศรีสะเกษ ยโสธร อุบลราชธานี และจ. อำนาจเจริญ -หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.สุรินทร์ มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.บุรีรัมย์ มหาสารคาม และจ.ร้อยเอ็ด อย่างไรก็ตาม อีก 11 หน่วยปฏิบัติการ จะยังคงติดตามสภาพอากาศตลอดทั้งวัน หากสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงและเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง จะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายทันที โดยมี 1 หน่วยปฏิบัติการ ที่ไม่สามารถขึ้นบินปฏิบัติการได้ คือ หน่วยปฏิบัติการฯ จ.นครราชสีมา เนื่องจากนักบินงดปฎิบัติหน้าที่เพื่อเฝ้าระวังสังเกตุอาการไม่พึงประสงค์ 48 ชม. ทั้งนี้ พี่น้องเกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ที่ช่องทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100