เมื่อ ยุโรป แอสซิสแทนซ์ (Europ Assistance) เผยผลสำรวจ Barometer ประจำปีครั้งที่ 20 จัดทำโดย IPOS โดยสำรวจความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวจำนวน 14,000 ราย จาก 14 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย พบพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไปจากการได้รับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการระบาดของโควิด-19 มีนักท่องเที่ยวชาวไทยกว่า 1,000 คนมีส่วนในการสำรวจครั้งนี้ ประมาณ 44% ของผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยวางแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวในเร็วๆนี้ และมีนักท่องเที่ยวชาวไทยถึง 81% วางแผนที่จะซื้อประกันคุ้มครองการเดินทาง นายฟิลลิป เดแมนกีท ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ของ ยุโรป แอสซิสแทนซ์ กล่าวว่า ด้วยวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้สร้างผลกระทบต่อโลกอย่างสาหัส และมีผลต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแบบที่ไม่คาดคิดมาก่อน ซึ่งผลสำรวจ Holiday Barometer ประจำปีที่ได้ร่วมจัดทำกับบริษัทวิจัยระดับโลกอย่าง IPOS จะช่วยให้เห็นภาพผลกระทบจากวิกฤตที่เกิดขึ้นต่อรูปแบบการท่องเที่ยวว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร สำหรับในวันหยุดที่จะมาถึงนี้ โดยผลสำรวจเผยให้เห็นว่า สามารถกลับมาท่องเที่ยวได้ปกติอีกครั้งภายในสองปีข้างหน้า นอกจากนี้ยังเผยถึงความต้องการความคุ้มครองจากประกันเดินทางที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งรวมไปถึงบริการเพิ่มเติมอื่นๆ อาทิ การตรวจสุขภาพก่อนการเดินทาง การให้คำแนะนำด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับประเทศปลายทาง ความสามารถในการทราบข้อมูลเคสผู้ป่วยโควิดของสถานที่ที่กำลังท่องเที่ยวในขณะนั้นด้วยตำแหน่งพิกัดทางภูมิศาสตร์ การปรึกษาแพทย์ผ่านทางออนไลน์ ความสามารถในการเข้ารับตรวจหาเชื้อโควิด สำหรับข้อมูลที่ได้จากการสำรวจดังกล่าวประมาณ 44% ของนักท่องเที่ยวชาวไทยวางแผนท่องเที่ยวในวันหยุดช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน 2564 นี้ แต่จาก 64% ในจำนวนดังกล่าวยังไม่ตัดสินใจว่าจะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศหรือต่างประเทศ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวจำนวน 47% ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาวยุโรป ประเทศอิตาลี 61% สเปน ฝรั่งเศส 54% และชาวจีน 61% เลือกวางแผนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศของตนเอง นอกจากการวางแผนท่องเที่ยวในปีนี้แล้ว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต้องการที่จะเดินทางไปกับคนสนิท โดยเลือกที่จะท่องเที่ยวกับครอบครัว คนรัก และลูกหลาน หลังจากการเว้นระยะห่างทางสังคมเป็นเวลาหลายเดือน มาตรการด้านความปลอดภัยยังคงเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย โดยพบว่านักท่องเที่ยวชาวไทยวางแผนท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติและห่างไกลผู้คน โดย เลือกเดินทางไปทะเล 57% ภูเขา 40% และอีก 34% วางแผนเดินทางไปต่างจังหวัดมากกว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่คนพลุกพล่านอย่างในตัวเมือง อีกเทรนด์ที่น่าสนใจ คือ นักท่องเที่ยวที่ตอบแบบสอบถามกว่า 81% วางแผนซื้อประกันการเดินทางในอนาคตซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 11% จากปีที่แล้ว ที่มีจำนวน 70% ทั้งนี้การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมนักท่องเที่ยวอย่างมากโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยและจีน เพราะถึงแม้นักท่องเที่ยวรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เดินทางอีกครั้ง แต่นักท่องเที่ยวชาวไทยกว่า 76%ยังรู้สึกกังวลถึงความปลอดภัยด้านสุขภาพของครอบครัวและเพื่อนๆ รองลงมาคือ นักท่องเที่ยวชาวจีนที่มีจำนวนสูงถึง 73% ซึ่งความกังวลนี้ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวจำนวนเพียงเล็กน้อยที่ได้ทำการจองทริปท่องเที่ยว โดยจากจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยทั้งหมด มีเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นที่ได้ทำการจองทริป อย่างไรก็ตามความกังวลนี้จะผ่านไป เพราะนักท่องเที่ยวยังคงเชื่อมั่นว่าจะสามารถกลับมาท่องเที่ยวได้อย่างอิสระในสภาวะปกติอีกครั้งภายในอีกสองปีข้างหน้า นอกจากนี้ผลสำรวจยังเผยว่า มีนักท่องเที่ยวชาวไทย 33% ที่รู้สึกปลอดภัยที่จะกลับมาท่องเที่ยวอีกครั้งในช่วงปลายปี 2565 และอีก 27% ที่มองไปถึงปลายปี 2566 โดยข้อมูลสำคัญจากสำรวจ Barometer ประจำปีครั้งที่ 20 ในช่วงพักฤดูร้อนเดือนมิถุนายน - กันยายน ถึงการวางแผนท่องเที่ยวในปี 2564 ระบุว่า 44% ของนักท่องเที่ยวชาวไทยได้วางแผนเดินทางท่องเที่ยว ซึ่ง 55% จากจำนวนดังกล่าวได้ทำการจองทริปแล้ว เช่นเดียวกับจำนวนนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันส่วนใหญ่ที่จองทริปท่องเที่ยวแล้ว 47%ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาวยุโรปและจีนวางแผนท่องเที่ยวในประเทศเป็นจุดหมายปลายทางแรก โดยมีนักท่องเที่ยวชาวจีน 37% และชาวยุโรป 35% ที่ได้ทำการจองทริปท่องเที่ยวบางส่วนแล้ว ขณะที่ นักท่องเที่ยวไทยเลือกให้ประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสิงคโปร์เป็นประเทศที่อยากไปมากที่สุด และนักท่องเที่ยวจีนเลือกไทยเป็น 1 ใน 3 ประเทศที่อยากไปมากที่สุดหากเลือกเดินทางไปต่างประเทศ และนักท่องเที่ยวชาวไทยวางแผนใช้จ่ายท่องเที่ยวโดยเฉลี่ยราว 53,000 บาท โดย 40% ระบุว่าจะเลือกเดินทางพักผ่อนยังสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นภูเขา ทั้งนี้ผู้ตอบแบบสอบถามส่วใหญ่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวกับคนสนิทและครอบครัว โดยจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทย 48% ชาวยุโรป 56% และชาวอเมริกัน 47% วางแผนที่จะใช้เวลาพักผ่อนร่วมกับครอบครัวในช่วงวันหยุดที่จะถึงนี้ 48%ของนักท่องเที่ยวชาวไทยรู้สึกอุ่นใจด้วยการเลือกเดินทางท่องเที่ยวโดยใช้รถยนต์ส่วนตัว และอีก 42% เลือกเดินทางโดยเครื่องบิน ซึ่งผู้ตอบแบบสอบถามทั่วโลกส่วนมากเลี่ยงที่จะเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนหนาแน่น ประกอบด้วยนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย 87% ชาวยุโรป 72% ชาวอเมริกัน 69% และเลือกที่จะปฏิบัติตามมาตรการด้านความปลอดภัยต่างๆเพื่อสามารถท่องเที่ยวได้อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น การได้รับวัคซีน และการปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม โดยนักท่องเที่ยวชาวไทยกว่า 86% ตัดสินใจแน่นอนและมีแนวโน้มที่จะฉีดวีคซีนต้านโควิด-19 เพื่อที่จะเดินทางท่องเที่ยวได้อีกครั้ง อีกทั้งผลสำรวจ ยังเผยว่า นักท่องเที่ยวมีแนวโน้มที่จะท่องเที่ยวโดยใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดย 74% ของนักท่องเที่ยวขาวไทยหันมาใช้ขวดน้ำพกพาแทนขวดน้ำพลาสติกใช้แล้วทิ้ง และอีก 22% ตั้งใจที่จะเปลี่ยนมาใช้ขวดน้ำพกพาเช่นกัน นอกจากนี้ 97% ของนักท่องเที่ยวชาวไทยตั้งใจอนุรักษ์ทรัพยากรท้องถิ่นและช่วยเหลือเศรษฐกิจของคนในพื้นที่มากขึ้น ด้วยการอุดหนุนผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ประมาณ 95% และพักที่โรงแรมของคนในพื้นที่ประมาณ 96% ส่วนความกังวลและการลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดนั้น ผลสำรวจได้เผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดกำลังเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น และเริ่มเห็นสัญญาณบวกของการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวพร้อมที่จะเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้ง แม้ว่าจะรู้สึกตื่นเต้นที่จะออกเดินทางแต่นักท่องเที่ยวก็ยังมีความกังวลต่อสถานกาณ์โควิด-19 อยู่บ้าง สังเกตได้จากนักท่องเที่ยวยังคงลังเลและระมัดระวังตัวในการเลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่เสี่ยงเกินไป ซึ่งจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่าครึ่งยังคงกังวลกับปัจจัยด้านสุขภาพของคนในครอบครัวและเพื่อนโดยคิดเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวน 76% ชาวจีน 73% และนักท่องเที่ยวชาวยุโรป 71% นักท่องเที่ยวยังคงกังวลถึงโอกาสที่จะไม่สามารถกลับไปท่องเที่ยวได้เหมือนเมื่อก่อนหน้าการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด และกังวลว่าจะไม่สามารถทำกิจกรรมเหมือนที่เคยทำได้ โดยนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย 83% และชาวยุโรป 65% ค่อนข้างกังวลและกังวลมาก อาทิ การนั่งในร้านอาหาร บาร์ ชาวเอเชีย 74% ชาวยุโรป 64% หรือกังวลหากมีการแพร่ระบาดอีกระลอกในระหว่างทริปท่องเที่ยว เป็นชาวเอเชีย 87% และชาวยุโรป 64% อย่างไรก็ตามการกักตัวยังเป็นอีกปัจจัยที่สร้างความกังวลให้กับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวยุโรปประมาณ 35% และชาวอเมริกัน ประมาณ 46% โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ไม่ต้องการที่จะกักตัวก่อนหรือหลังทริปท่องเที่ยว ในขณะที่ นักท่องเที่ยวชาวไทย 83% และชาวจีน 75% ยินดีปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวนี้ อีกทั้งแม้ผู้ตอบแบบสอบถามจะเชื่อมั่นว่าจะสามารถกลับมาท่องเที่ยวในสภาวะปกติได้อีกครั้งภายในสองปีข้างหน้า แต่ภายใต้สถานการณ์ที่ยังคงไม่แน่นอนในปัจจุบัน ทำให้นักท่องเที่ยวคำนึงถึงการมีประกันการเดินทางมากขึ้นประมาณ 81% ของนักท่องเที่ยวชาวไทยเผยว่า พวกเขาวางแผนที่จะทำประกันการเดินทางในอนาคต ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 11% จากปีที่แล้ว และพวกเขายังคงยินดีที่จะปฏิบัติตามมาตรการการกักตัวก่อนและหลังการเดินทาง 12% ของนักท่องเที่ยวชาวยุโรปวางแผนว่าจะทำประกันการเดินทางเพิ่มอย่างแน่นอนในอนาคต 10% ของนักท่องเที่ยวชาวยุโรปจะหันมาเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้มากขึ้น หรือลดความถี่ในการเดินทางลง