ตำรวจชุดสืบสวนภาค9และชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.พัทลุง ชุดสืบสวนสภ.กงหรา จับกุมมือปืนที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงแสกหน้าหญิงสาวอายุ 32 ปี ที่ ต.ชะรัด อ.กรงหรา จ.พัทลุง ได้แล้วยังภาคเสธอ้างปืนลั่นไม่เจตนาฆ่า สารภาพเคยเป็นมือปืนรับจ้างฆ่าคนมา 30 ศพเคยติดคุกบางขวาง พบประวัติเคยต้องคดีมาแล้วอย่างน้อย 3 คดีทั้งพยายามฆ่าและค้ายาเสพติดทั้งใน จ.พัทลุง และตรัง
วันนี้(17มิ.ย.64)ตำรวจกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธร ภาค 9 ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.พัทลุง และชุดสืบสวน สภ.กงหรา นำโดย พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภาค 9 พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ รอง ผบช.ภ.9 , พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว. พัทลุง,พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล รอง ผบก.สส.ภ.9 ,พ.ต.อ. ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.พัทลุง ,พ.ต.ท. ทศพล อารมณ์รัตน์ รอง ผกก สส.2 บก สส ภ9,พ.ต.ท.นิกร ปานแก้ว รอง ผกก.สส.สภ.กงหรา เข้าจับกุม นายบุญสง หรือสง นวลนิ่ม อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทลุง ได้ที่สวนชารีสอร์ท ในพื้นที่ ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
หลังจากที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองยิง น.ส.นิตยา นิลอ่อน อายุ 32 ปี เข้าที่ใบหน้าเสียชีวิต เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 128 หมู่ 2 ต.ชะรัด อ.กงหรา จ.พัทลุง เมื่อคืนวันที่ 4 มิถุนายน
และตำรวจได้สืบสวนตามแกะรอยจนจับกุมได้ขณะหนีมากบดานอยู่ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ โดยพักอยู่ที่สวนชารีสอร์ท ใน ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตำรวจจึงไปเฝ้าติดตามตัวอยู่นาน 3 วัน จนจับกุมตัวได้ พร้อมของกลางรองเท้าผ้าใบสีแดง 1 คู่ เสื้อยืดสีเทา 1 ตัวกางเกงยีนส์ ขายาว 1 ตัว ที่สวมใส่ขณะก่อเหตุ ส่วนปืนลูกซองยาวที่ก่อเหตุอ้างว่ายืมเพื่อนมาและส่งคืนไปแล้ว
จากการสอบสวนทราบนายบุญส่ง ให้การภาคเสธโดยอ้างว่าในคืนเกิดเหตุได้พาเพื่อนอีก 2 คนไปหาพี่สาวของผู้ตายซึ่งเป็นหม้ายสาวลูกติดที่บ้านเกิดเหตุซึ่งได้คบหากันมาระยะหนึ่ง
แต่ถูกผู้ตายซึ่งเป็นน้องสาวกีดกันไม่ให้พบจึงเกิดการทะเลาะกันขึ้น และได้ทำปืนลั่นใส่หน้าผู้ตาย 1 นัด ไม่ได้เจตนายิงผู้ตาย
และจากการสืบสวนพบว่า นายบุญส่ง เคยโทรศัพท์ไปข่มขู่ผู้ตายมาครั้งหนึ่งแล้วด้วยเพราะไม่พอใจที่ถูกกีดกัน
นอกจากนี้ นายบุญส่ง ยังอ้างอีกว่าในอดีตเคยเป็นมือปืนรับจ้างในพื้นที่ภาคกลาง หลายจังหวัด รวมทั้ง จ.นครสวรรค์ มาราว 30 ศพด้วย รวมทั้งยังเคยติดคุกบางขวาง
แต่จากการตรวจสอบประวัติบัญชีมือปืนรับจ้างไม่พบประวัติ นอกจากนี้ยังพบว่าเป็นนักค้ายาเสพติดรายย่อยด้วย และเคยต้องคดียาเสพติดและพยายามฆ่ามาแล้วอย่างน้อย 3 คดี เริ่มจากคดีพยายามฆ่า สภ.นาโยง จ.ตรัง เมื่อปี 47 คดียาเสพติด สภ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง ปี 60 คดียาเสพติด สภ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ปี 62 ตำรวจจึงควบคุมตัวดำเนินคดี 3ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ และคุมตัวส่ง สภ.กงหรา พื้นที่เกิดเหตุดำเนินคดีต่อไป
และตำรวจได้สืบสวนตามแกะรอยจนจับกุมได้ขณะหนีมากบดานอยู่ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ โดยพักอยู่ที่สวนชารีสอร์ท ใน ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตำรวจจึงไปเฝ้าติดตามตัวอยู่นาน 3 วัน จนจับกุมตัวได้ พร้อมของกลางรองเท้าผ้าใบสีแดง 1 คู่ เสื้อยืดสีเทา 1 ตัวกางเกงยีนส์ ขายาว 1 ตัว ที่สวมใส่ขณะก่อเหตุ ส่วนปืนลูกซองยาวที่ก่อเหตุอ้างว่ายืมเพื่อนมาและส่งคืนไปแล้ว
จากการสอบสวนทราบนายบุญส่ง ให้การภาคเสธโดยอ้างว่าในคืนเกิดเหตุได้พาเพื่อนอีก 2 คนไปหาพี่สาวของผู้ตายซึ่งเป็นหม้ายสาวลูกติดที่บ้านเกิดเหตุซึ่งได้คบหากันมาระยะหนึ่ง
แต่ถูกผู้ตายซึ่งเป็นน้องสาวกีดกันไม่ให้พบจึงเกิดการทะเลาะกันขึ้น และได้ทำปืนลั่นใส่หน้าผู้ตาย 1 นัด ไม่ได้เจตนายิงผู้ตาย
และจากการสืบสวนพบว่า นายบุญส่ง เคยโทรศัพท์ไปข่มขู่ผู้ตายมาครั้งหนึ่งแล้วด้วยเพราะไม่พอใจที่ถูกกีดกัน
นอกจากนี้ นายบุญส่ง ยังอ้างอีกว่าในอดีตเคยเป็นมือปืนรับจ้างในพื้นที่ภาคกลาง หลายจังหวัด รวมทั้ง จ.นครสวรรค์ มาราว 30 ศพด้วย รวมทั้งยังเคยติดคุกบางขวาง
แต่จากการตรวจสอบประวัติบัญชีมือปืนรับจ้างไม่พบประวัติ นอกจากนี้ยังพบว่าเป็นนักค้ายาเสพติดรายย่อยด้วย และเคยต้องคดียาเสพติดและพยายามฆ่ามาแล้วอย่างน้อย 3 คดี เริ่มจากคดีพยายามฆ่า สภ.นาโยง จ.ตรัง เมื่อปี 47 คดียาเสพติด สภ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง ปี 60 คดียาเสพติด สภ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ปี 62 ตำรวจจึงควบคุมตัวดำเนินคดี 3ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ และคุมตัวส่ง สภ.กงหรา พื้นที่เกิดเหตุดำเนินคดีต่อไป