นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตามที่ ธปท. ร่วมกับสำนักงานศาลยุติธรรม กรมคุ้มครองสิทธิ และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) พร้อมกับผู้ให้บริการ 12 แห่ง ได้ร่วมกันจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้เช่าซื้อรถยนต์ออนไลน์ขึ้น ปรากฏว่าได้รับเสียงตอบรับดี มีประชาชนสนใจมากพอสมควร ในช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา มีผู้เช่าซื้อสนใจลงทะเบียนมา 13,450 คัน สำหรับกลุ่มลูกหนี้เช่าซื้อที่มีปัญหาติ่งหนี้หรือกลุ่มลูกหนี้เช่าซื้อที่ประสบปัญหาเจ้าหนี้เรียกร้องให้ชำระหนี้เพิ่ม หลังจากยึดรถออกขายทอดตลาดไปแล้ว หากรู้สึกว่าเจ้าหนี้ต้องการให้จ่ายมากเกินไป สามารถยื่นขอไกล่เกลี่ยผ่านงานมหกรรมในครั้งนี้ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายกลุ่มหนึ่งของงานมหกรรม ทั้งนี้ปัญหาติ่งหนี้ของสินเชื่อเช่าซื้อส่วนหนึ่งเกิดจากธุรกิจเช่าซื้อไม่ได้มีกฎหมายควบคุมเป็นการเฉพาะ ทำให้เกิดช่องว่างที่ไม่มีการควบคุม โดยแนวทางในการไกล่เกลี่ยสำหรับกลุ่มนี้คือ ลูกหนี้จะชำระหนี้เฉพาะยอดหนี้ตามแนวของศาล และ สคบ. โดยจะให้โอกาสลูกหนี้สามารถผ่อนชำระหนี้ส่วนนี้ได้นานระยะหนึ่ง เช่น 3 ปี เป็นต้น นอกจากนี้ กลุ่มเป้าหมายที่สำคัญอีกกลุ่มคือ กลุ่มลูกหนี้เช่าซื้อที่รถถูกยึดไปไม่นาน รถยังไม่ถูกขายทอดตลาด ถ้าเป็นรถที่ใช้ประกอบอาชีพ ส่วนนี้สามารถลงทะเบียนขอไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ลิสซิ่งได้เช่นเดียวกัน "เราเชื่อว่า หลังจากที่แนวปฏิบัติเรื่องการคำนวณติ่งหนี้ของเช่าซื้อชัดเจนขึ้น เจ้าหนี้จะมีแรงจูงใจที่จะเจรจาไกล่เกลี่ยกับลูกหนี้มากขึ้น เพราะท้ายที่สุดแล้ว ลูกหนี้ที่เช่าซื้อรถคันนี้ คือ ผู้ที่เต็มใจจะให้ราคาดีที่สุด ถ้าไกล่เกลี่ยปัญหากันได้ ก็จะเป็นสถานการณ์ที่ win win ทั้งสองฝ่าย" โดยแนวทางการไกล่เกลี่ยส่วนนี้คือ ผู้ให้เช่าซื้อจะยอมให้ผู้เช่าซื้อสามารถรับรถที่ถูกยึดมา กลับไปเพื่อใช้ประกอบอาชีพ โดยจะปรับโครงสร้างหนี้ให้ผ่อนชำระหนี้ต่อจากที่หยุดชำระค่างวดไป โดยจะคิดค่าธรรมเนียมดอกเบี้ยจากค่างวดที่ควรได้รับชำระเท่านั้น ซึ่งจะไม่มาก ทั้งนี้แม้ท่านจะไม่ได้เป็นลูกค้าของผู้ให้เช่าซื้อทั้ง 12 แห่ง ถ้าท่านเดือดร้อนประสบปัญหา ไม่สามารถหาข้อยุติกับเจ้าหนี้ได้ ท่านยังสามารถยื่นข้อเสนอไปที่ผู้ให้บริการผ่านช่องทางของ"ทางด่วนแก้หนี้"ของ ธปท.ซึ่งจะส่งคำขอไกล่เกลี่ยของท่านไปที่เจ้าหนี้ลิสซิ่งของท่าน(www.1213.or.th/App/DebtCase)