วันที่ 17 มิ.ย.64 ดร.เซปิง ไชยศาส์น ประธานโครงการศัลยกรรมความงามเฟซออฟ ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียน นายภิญโญภัทร์ ชิดตะวัน ทนายความ ต่อสภาทนายความในพระบรมราชูปภัมภ์ เพื่อให้ดำเนินการสอบสวนมรรยาททนายความ และให้พิจารณาลงโทษจำหน่ายชื่อลบชื่อออกจากทะเบียนทนายความ ขอให้เพิกถอนใบอนุญาตว่าความของนายภิญโญภัทร์ ชิดตะวัน ที่ประพฤติตนไม่เหมาะสมอย่างร้ายแรงโดยมีเจ้าหน้าที่ตัวแทนประธานกรรมการมรรยาททนายความรับเรื่องร้องเรียน ดร.เซปิง กล่าวเปิดเผยว่า วันนี้ได้มาร้องที่สภาทนายความเนื่องจากนายภิญโญภัทร์ เคยไปออกรายการทีวีช่องหนึ่งในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และข้อหาลักขโมยเอกสารสำคัญ อันเป็นการกระทำอุกอาจต่อหน้าศาลในระหว่างมีการพิจารณาคดี และเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมานั้นนายภิญโญภัทร์นำเอาข้อมูลอันเป็นเท็จแล้วโพสต์ข้อความเข้าไปในสำนักข่าวต่างๆในลักษณะที่บิดเบือนข้อเท็จจริง โหมกระพือข่าวเพื่อทำลายชื่อเสียง ดร.เซปิง อย่างมากมาย ซึ่งเป็นการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ บิดเบือน หรือปลอมข้อมูล ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งการกระทำของนายภิญโญภัทร์ไม่ทราบว่ามีอคติหรือจงเกลียดจงชัง ดร.เซปิง เพราะเหตุใดจึงต้องจ้องทำลายชื่อเสียงของดร.เซปิง ทุกวิถีทาง บางคดียอมกระทำผิดอาญาลักเอกสารสำคัญในบัลลังก์ขณะศาลกำลังพิจารณาคดีโดยมีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อให้คดีที่ตนเป็นทนายความชนะคดี หรือกระทำไปเพื่อความสะใจกันแน่ หากเป็นเช่นนั้น นับว่าเป็นการกล้าเอาตัวเข้าเสี่ยงกระทำเกินกว่าบุคคลที่เป็นนักกฎหมายพึงกระทำ เพราะฉะนั้น ดร.เซปิง จึงจำเป็นต้องใช้สิทธิเพื่อขอบารมีศาลเป็นที่พึ่งฟ้องคดี มิให้ทนายความที่ดีส่วนใหญ่ต้องพลอยมัวหมองด่างพร้อยไปกับการกระทำของนายภิญโญภัทร์เพียงคนเดียวเท่านั้น นายภิญโญภัทร์ หาได้นำพาความรู้ที่ตนศึกษาเล่าเรียนอบรมมาปฏิบัติให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสภาทนายความแต่อย่างใดไม่ แต่กลับประพฤติตนใช้กฏหมายเป็นเครื่องมือเพื่อทำลาย ดร.เซปิง ทุกวิถีทาง นายภิญโญภัทร์กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายเป็นอาจิณมีอคติกลั่นแกล้งกล่าวหาบิดเบือนข้อเท็จจริงฟ้องร้อง ดร.เซปิง เป็นคดีความและมักออกข่าวทำลายชื่อเสีย ดร.เซปิง อยู่เนืองๆและที่ ดร.เซปิง มาร้องเรียนต่อสภาทนายความเพื่อให้ดำเนินการสอบสวนดำเนินคดีมรรยาททนายความพิจารณาลงโทษจำหน่ายชื่อลบชื่อออกจากทะเบียนทนายความและขอให้เพิกถอนใบอนุญาตมิให้เป็นเยี่ยงอย่างในทางที่ไม่ดีประพฤติตนไม่เหมาะสมอย่างร้ายแรง ดร.เซปิง เชื่อมั่นว่าองค์กรแห่งสภาทนายความ ย่อมต้องปกป้องรักษาคนดีและขจัดคนไม่ดีออกจากองค์กรของตนอย่างแน่นอน