ท่ามกลางวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนในประเทศ ที่ต้องระมัดระวังในการใช้ชีวิตมากขึ้น จากเดิมที่สามารถประกอบอาชีพ มีรายได้ เลี้ยงครอบครัว ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตใหม่ (New Normal) กันอย่างทั่วหน้า ทั้งผู้ประกอบการ ประชาชน ต่างประสบปัญหาการปิดกิจการ และหลายครัวเรือนประสบปัญหาการเลิกจ้างงาน ทำให้มีผลกระทบทำให้รายได้ลดลงอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ตลอดมาทางศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทั้ง 6 แห่ง ที่มีอยู่ทั่วประเทศนั้นก็มิได้หยุดนิ่งหากแต่ยังคงเดินหน้าให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านการดำรงชีพและการประกอบอาชีพในยามวิกฤตินี้ และในการเกิดการระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรอบที่ 3 ทางศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ ก็ยังคงดำเนินการในการส่งเสริมและสนับสนุนประชาชนในพื้นที่ให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างต่อเนื่อง ดังเช่นที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนราธิวาส ศูนย์ศึกษาฯ ที่ เกิดขึ้นเนื่องจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมเยียนราษฎรในเขตพื้นที่ภาคใต้ ทรงพบว่าพื้นที่จำนวนมากมีสภาพเป็นพรุ ซึ่งเป็นดินเปรี้ยวและมีคุณภาพต่ำ ไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้ จึงพระราชทานพระราชดำริให้จัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ ขึ้น เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2524 เพื่อศึกษา ค้นคว้า วิจัย ทดลอง และพัฒนาดินอินทรีย์ และดินที่มีปัญหาอื่นๆ ในพื้นที่พรุ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ทางด้านการเกษตร รวมทั้งแสวงหาแนวทางและวิธีการพัฒนา ทั้งทางด้านการเลี้ยงสัตว์ และการเกษตรอุตสาหกรรมที่มีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพพื้นที่ภาคใต้ เพื่อให้เป็นต้นแบบแห่งความสำเร็จให้พื้นที่อื่นๆ เป็นศูนย์ที่ดำเนินงานในลักษณะผสมผสานตามแนวพระราชดำริ เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่เดือดร้อนจากสภาพปัญหาต่างๆ ในทุกสถานการณ์ให้สามารถใช้ประโยชน์จากที่ทำกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามแนวทางที่ได้รับพระราชทานพระราชดำริไว้ ในช่วงเกิดการระบาดของโควิด-19 ทั้ง 3 ระลอกของประเทศไทย ทางศูนย์ฯ ได้ใส่ใจชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเกษตรกรขยายผล เช่น หมู่บ้านรอบศูนย์ฯ ศูนย์สาขา และพื้นที่ที่มีพระราชดำริให้ดำเนินการผ่านองค์ความรู้ตามแนวพระราชดำริที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานไว้ โดยเฉพาะการน้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติใช้ โดยได้ขับเคลื่อนและส่งเสริมการทำการเกษตร การพัฒนาอาชีพในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้ราษฎรเกิดความรู้และเข้าใจหันกลับมาทำการเกษตรในรูปแบบที่เหมาะสมกับพื้นที่และสถานการณ์มากขึ้น เช่น ปลูกพืชบริเวณบ้านเพื่อลดการเดินทาง ปลูกพืชผักในภาชนะเหลือใช้ในครัวเรือน เพื่อลดต้นทุนในการผลิตเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกษตรกรมีผลผลิตปลอดภัยจากสารพิษไว้บริโภคในครัวเรือน รวมถึงแบ่งปันแก่เพื่อนบ้าน เป็นการช่วยลดรายจ่าย สร้างรายได้ให้กับครัวเรือน อีกทั้งช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อไวรัสโควิด -19 อีกด้วย พร้อมกันนี้ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมเมื่อสถานการณ์โรคระบาดเข้าสู่ภาวะปกติ ราษฎรสามารถเดินหน้าในการดำรงชีพและประกอบอาชีพอย่างปกติได้ทันที ทางศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ จึงได้เปิดโครงการฝึกอบรมเกษตรกรภายใต้ผลสำเร็จของศูนย์ฯ ขึ้น ซึ่งเป็นการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้รับความรู้ในการเพาะปลูกหรือทำการผลิตผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับสภาพของพื้นที่ตลอดถึงความสามารถในการปฏิบัติจากการปฏิบัติจริง จำนวน 5 หลักสูตรด้วยกัน ประกอบด้วย การเลี้ยงปลาในบ่อดินเปรี้ยว เปิดอบรมในวันที่ 15 มิถุนายน 64 การเลี้ยงสัตว์ปีกประเภทเป็ดและไก่ อบรมวันที่ 16 มิถุนายน 64 การเพาะเห็ดถุงเสริมรายได้ อบรมวันที่ 17 มิถุนายน 64 การปรับปรุงดินเปรี้ยวจัดเพื่อปลูกพืชผัก อบรมวันที่ 22 มิถุนายน 64 การปรับปรุงดินเปรี้ยวจัดเพื่อปลูกมะพร้าวน้ำหอม อบรมวันที่ 23 มิถุนายน 64 ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดได้ทาง QR CODE หรือติดต่อสอบถาม โทร. 073 631033,38 ต่อ 501