วันที่ 16 มิถุนายน 2564 ศูนย์วิจัยด้านตลาดการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นต่อการท่องเที่ยวภายในประเทศของคนไทย ซึ่งได้สำรวจกลุ่มเป้าหมายระหว่างวันที่ 2 – 6 มิถุนายน 2564 ในจำนวนหน่วยตัวอย่าง 1,037 ตัวอย่าง
โดยผลสำรวจ ถึงความเชื่อมั่นต่อการท่องเที่ยวในประเทศ ระหว่างวันที่ 2-6 มิถุนายน 2564 จากกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศจำนวน 1,037 ราย พบว่าภาพรวมคนไทยส่วนใหญ่ร้อยละ 65.94 ยังมีความเชื่อมั่นต่อการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยเหตุผลที่เชื่อมั่นต่อการท่องเที่ยวภายในประเทศ ร้อยละ 32.42 มีความมั่นใจต่อมาตรการการควบคุมโควิด-19 ทำให้รู้สึกปลอดภัย รองลงมา ร้อยละ 18.26 กล่าวว่า สามารถท่องเที่ยวได้ แหล่งท่องเที่ยวสวยงาม และการเดินทางสะดวก ร้อยละ 15.07 ระบุว่า มีวัคซีนป้องกันแล้ว และสามารถดูแลตัวเองได้ หรือหลีกเลี่ยงการไปสถานที่ที่มีการแพร่ระบาด ขณะที่เหตุผลที่ไม่เชื่อมั่น ส่วนใหญ่มีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 เช่น การพบผู้ติดเชื้อ โควิด-19 เป็นจำนวนมาก/ไม่สามารถควบคุมโรคได้ในบางพื้นที่ มาตรการการป้องกันยังไม่เข้มงวดพอ รวมถึงการไม่ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง
สำหรับปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ พบว่าร้อยละ 22.78 ให้ความสำคัญกับสถานการณ์โควิด-19 ที่ลดความรุนแรงลง/ควบคุมได้ดีขึ้น รองลงมา คือ ความเข้มงวดของมาตรการการป้องกันโควิด-19 ระหว่างเดินทาง ร้อยละ 17.12 และสถานะทางการเงิน ร้อยละ 16.20
ขณะที่ แนวโน้มการเดินทางท่องเที่ยวช่วงครึ่งปีหลัง 2564 จากการสำรวจพบว่าประมาณร้อยละ 49.48 ของผู้ตอบแบบสอบถาม ยังมีความต้องการเดินทางท่องเที่ยว โดยส่วนใหญ่เลือกที่จะเดินทางท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 4 (เดือนตุลาคมถึงธันวาคม) ซึ่งเป็นฤดูการท่องเที่ยวในสถานการณ์ปกติ ประเมินได้ว่า สถานการณ์โควิด-19 ไม่น่าจะไม่มีผลกระทบทำให้ฤดูของการท่องเที่ยวเปลี่ยนไปแต่อย่างใด ทั้งนี้หากต้องการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจท่องเที่ยวได้เร็วขึ้น โปรโมชั่นส่วนลดค่าที่พัก เป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจท่องเที่ยวได้เร็วขึ้นมากที่สุด รองลงมาเป็นการกระตุ้นจากมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาครัฐ เช่น เราเที่ยวด้วยกัน ทัวร์เที่ยวไทย และโปรโมชั่นส่วนลดค่าเดินทาง เช่น ตั๋วเครื่องบิน รถเช่า
อย่างไรก็ดี กลุ่มที่ยังไม่ได้ตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวภายในปีนี้ เนื่องด้วยเหตุผล คือ ไม่อยากเผชิญความเสี่ยงในการติดโควิด-19 ร้อยละ 42.49 รองลงมา คือ สถานะทางการเงินยังไม่พร้อม/ต้องการประหยัด ร้อยละ 19.93 ซึ่งเป็นผลกระทบทั้งจากสถานการณ์โควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลรายได้ที่ลดลงของชาวไทย
ส่วนพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยว ในภาพรวมส่วนใหญ่ร้อยละ 72.47 ยังเป็นการเดินทางข้ามภูมิภาค มีลักษณะการท่องเที่ยวแบบ พักค้างคืน มีสัดส่วนมากถึงร้อยละ 86.21 มีจำนวนวันท่องเที่ยวเฉลี่ย 3.04 วัน เลือกเดินทางในช่วงวันหยุดปกติ (ส.-อา.) ร้อยละ 48.87 วันธรรมดา (จ.-ศ.) ร้อยละ 40.76 และวันหยุดนักขัตฤกษ์/วันหยุดพิเศษ ร้อยละ 10.37 การจัดการเดินทางยังเป็นการเดินทางร่วมกับ “ครอบครัว/ญาติ” พาหนะหลักที่ใช้ในการเดินทาง จะพบว่า ร้อยละ 69.69 ใช้ “รถยนต์ส่วนตัว” ซึ่งอาจเกิดจากความกังวลในการเดินทางด้วยรถสาธารณะ ทั้งนี้จังหวัดยอดนิยมในการเดินทางท่องเที่ยว ได้แก่ เชียงใหม่ กระบี่ ภูเก็ต กาญจนบุรี ชลบุรี ตามลำดับ
พร้อมกันนี้ยังมีทัศนคติต่อการท่องเที่ยวในช่วงสถานการณ์โควิด-19 กว่า 2 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสอบถามเลือกที่จะหลีกเลี่ยงการท่องเที่ยวในเมืองใหญ่ที่มีผู้คนหนาแน่น และเลือกไปจังหวัดที่มีการควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ได้ดี นอกจากนั้น เกินกว่าครึ่งเลือกที่จะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเท่านั้น และยังคำนึงถึงระยะห่างทางสังคม (social distancing) ซึ่งเป็นปัจจัยในการเลือกทำกิจกรรมท่องเที่ยว ในขณะที่มีอีกกลุ่มหนึ่ง มองว่า การท่องเที่ยวในช่วงสถานการณ์โควิด-19 นี้แหละ เป็นโอกาสของการท่องเที่ยวในราคาพิเศษ
สำหรับปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ พบว่าร้อยละ 22.78 ให้ความสำคัญกับสถานการณ์โควิด-19 ที่ลดความรุนแรงลง/ควบคุมได้ดีขึ้น รองลงมา คือ ความเข้มงวดของมาตรการการป้องกันโควิด-19 ระหว่างเดินทาง ร้อยละ 17.12 และสถานะทางการเงิน ร้อยละ 16.20
ขณะที่ แนวโน้มการเดินทางท่องเที่ยวช่วงครึ่งปีหลัง 2564 จากการสำรวจพบว่าประมาณร้อยละ 49.48 ของผู้ตอบแบบสอบถาม ยังมีความต้องการเดินทางท่องเที่ยว โดยส่วนใหญ่เลือกที่จะเดินทางท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 4 (เดือนตุลาคมถึงธันวาคม) ซึ่งเป็นฤดูการท่องเที่ยวในสถานการณ์ปกติ ประเมินได้ว่า สถานการณ์โควิด-19 ไม่น่าจะไม่มีผลกระทบทำให้ฤดูของการท่องเที่ยวเปลี่ยนไปแต่อย่างใด ทั้งนี้หากต้องการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจท่องเที่ยวได้เร็วขึ้น โปรโมชั่นส่วนลดค่าที่พัก เป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจท่องเที่ยวได้เร็วขึ้นมากที่สุด รองลงมาเป็นการกระตุ้นจากมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาครัฐ เช่น เราเที่ยวด้วยกัน ทัวร์เที่ยวไทย และโปรโมชั่นส่วนลดค่าเดินทาง เช่น ตั๋วเครื่องบิน รถเช่า
อย่างไรก็ดี กลุ่มที่ยังไม่ได้ตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวภายในปีนี้ เนื่องด้วยเหตุผล คือ ไม่อยากเผชิญความเสี่ยงในการติดโควิด-19 ร้อยละ 42.49 รองลงมา คือ สถานะทางการเงินยังไม่พร้อม/ต้องการประหยัด ร้อยละ 19.93 ซึ่งเป็นผลกระทบทั้งจากสถานการณ์โควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลรายได้ที่ลดลงของชาวไทย
ส่วนพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยว ในภาพรวมส่วนใหญ่ร้อยละ 72.47 ยังเป็นการเดินทางข้ามภูมิภาค มีลักษณะการท่องเที่ยวแบบ พักค้างคืน มีสัดส่วนมากถึงร้อยละ 86.21 มีจำนวนวันท่องเที่ยวเฉลี่ย 3.04 วัน เลือกเดินทางในช่วงวันหยุดปกติ (ส.-อา.) ร้อยละ 48.87 วันธรรมดา (จ.-ศ.) ร้อยละ 40.76 และวันหยุดนักขัตฤกษ์/วันหยุดพิเศษ ร้อยละ 10.37 การจัดการเดินทางยังเป็นการเดินทางร่วมกับ “ครอบครัว/ญาติ” พาหนะหลักที่ใช้ในการเดินทาง จะพบว่า ร้อยละ 69.69 ใช้ “รถยนต์ส่วนตัว” ซึ่งอาจเกิดจากความกังวลในการเดินทางด้วยรถสาธารณะ ทั้งนี้จังหวัดยอดนิยมในการเดินทางท่องเที่ยว ได้แก่ เชียงใหม่ กระบี่ ภูเก็ต กาญจนบุรี ชลบุรี ตามลำดับ
พร้อมกันนี้ยังมีทัศนคติต่อการท่องเที่ยวในช่วงสถานการณ์โควิด-19 กว่า 2 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสอบถามเลือกที่จะหลีกเลี่ยงการท่องเที่ยวในเมืองใหญ่ที่มีผู้คนหนาแน่น และเลือกไปจังหวัดที่มีการควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ได้ดี นอกจากนั้น เกินกว่าครึ่งเลือกที่จะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเท่านั้น และยังคำนึงถึงระยะห่างทางสังคม (social distancing) ซึ่งเป็นปัจจัยในการเลือกทำกิจกรรมท่องเที่ยว ในขณะที่มีอีกกลุ่มหนึ่ง มองว่า การท่องเที่ยวในช่วงสถานการณ์โควิด-19 นี้แหละ เป็นโอกาสของการท่องเที่ยวในราคาพิเศษ