วันที่ 16 มิ.ย. เมื่อเวลา 18.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เผยโรดแมป “ประเทศไทยต้องเปิดประเทศ ภายใน 120 วัน” เตรียมนำ ภูเก็ต Sandbox เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พิจารณาและอนุมัติ ในช่วงสัปดาห์หน้า เพื่อเตรียมการเปิดประเทศในระยะต่อไป นายกรัฐมนตรี กล่าวในช่วง 1 เดือนกว่าที่ผ่านมานี้ ได้สั่งการตรงเพื่อบูรณาการการทำงานหน่วยงาน และคณะกรรมการชุดต่าง ๆ ให้ทำงานร่วมกันอย่างฉับไวและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ตลอดจนแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วบนพื้นฐานการรับฟังคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้มีความคืบหน้าเจรจากับผู้ผลิตวัคซีน จำนวน 6 รายแล้ว ได้แก่ ไฟเซอร์ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน โมเดิร์นน่า แอสตราเซเนกา ซิโนแวคและซิโนฟาร์ม โดยลงนามในสัญญาจองหรือสัญญาซื้อไปแล้ว 105.5 ล้านโดส โดยทั้งหมดจะทยอยส่งมอบเข้ามาภายในปีนี้ และเดินหน้าจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมอีกสำหรับปีหน้า ยืนยันว่า สามารถฉีดวัคซีนให้ประชาชนเฉลี่ยประมาณเดือนละกว่า 10 ล้านโดส หากวัคซีนเพียงพอและประมาณต้นเดือนตุลาคม จะมีประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีน อย่างน้อยเข็มแรกแล้ว จำนวน 50 ล้านคน นายกรัฐมนตรี แถลงเป้าหมายเปิดทั้งประเทศให้ได้ภายใน 120 วันนับจากวันนี้ หากเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ ๆ พร้อมก็จะทยอยเปิดให้ได้เร็วกว่านั้น โดยนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดสควรเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว รวมทั้งคนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วก็ควรเดินทางกลับเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัวเช่นกัน รวมทั้งสถานที่ทำงานและธุรกิจร้านค้าต่าง ๆ ต้องกลับมาเปิดทำการได้ การเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศควรไม่มีข้อห้ามหรือข้อบังคับแบบเหมารวมทั้งจังหวัด นายกรัฐมนตรียังขอให้ผู้ว่าราชการทุกจังหวัดเริ่มเตรียมการทุกอย่างให้พร้อม เพื่อเปิดให้มีการทำมาหากินของประชาชนได้อีกครั้งตามกรอบเวลา โดยเริ่มนำร่องที่จังหวัดภูเก็ตเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาแบบ Sandbox ซึ่งจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พิจารณาและอนุมัติ ในช่วงสัปดาห์หน้า เพื่อเตรียมการเปิดประเทศในระยะต่อไป นายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับว่า หากเปิดประเทศมีความเป็นไปได้ว่าอาจทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นบ้าง จะต้องยอมรับความเสี่ยงร่วมกัน เมื่อคำนึงถึงความอยู่รอดในการทำมาหากินของประชาชน และผ่านการประเมินอย่างรอบคอบว่าอยู่ในระดับที่พอจะรับได้ ที่ผ่านมาประเทศไทยประสบความสำเร็จในการรักษาชีวิตของคนไทยไม่ให้เกิดการสูญเสียชีวิตของผู้คนเป็นจำนวนมาก จนประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก รวมทั้งหลีกเลี่ยงไม่ให้ระบบสาธารณสุข ถูกทำลาย ขณะนี้ภารกิจต่อไป คือ ทุกคนสามารถกลับมาทำมาหากินกันได้ปกติอีกครั้งโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อเดินหน้าไปสู่เป้าหมายการเปิดประเทศ ภายใน 120 วันให้ได้ ทั้งนี้ นโยบายสำคัญในระยะสั้นนี้ คือ ประชาชนทุกคนต้องได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งเพียงเข็มแรกก็สามารถช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและช่วยลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตและระยะยาว คือ การมีฐานการผลิตวัคซีนโควิด-19 ตั้งอยู่ในประเทศจะช่วยให้เข้าถึงวัคซีนได้ในระยะยาว ดังนั้นการมีโรงงานผลิตวัคซีนโควิด-19 อยู่ในประเทศไทยเป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดในระยะยาว ช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงภารกิจสำคัญครั้งประวัติศาสตร์ คือ การปูพรมฉีดวัคซีนทั่วประเทศให้ได้ครบตามเป้าหมาย ต้องเร่งให้เร็วที่สุดและต้องเข้าถึงทุกคน ทุกพื้นที่ ครอบคลุมทั้งประเทศ พร้อมขอบคุณและส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่และบุคลากรต่าง ๆ ที่เหนื่อยกันมากว่าปีครึ่งแล้ว และยังคงทำหน้าที่ต่อไปอย่างเต็มที่และเต็มใจในการปกป้องชีวิตของพี่น้องคนไทยด้วยกันทุกคน